รีวิวหนัง Ghost Book อัศจรรย์หนังสือดูดวิญญาณ​ | แก๊งเพื่อนผจญภัยสะสมปีศาจ

ในช่วงวันคริสต์มาสที่ใครต่างใส่เสื้อสีเขียวแดงออกไปแฮปปี้กับครอบครัว แต่ผมไปห้างเพื่อจะดูหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ ‘Ghost Book หรือชื่อไทย ‘อัศจรรย์หนังสือดูดวิญญาณ’ หนังแฟนตาซีที่ตัวเอกเป็นเด็ก ให้ฟีลเหมือนไปดูหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคแรกๆ เพราะมันเล่าเรื่องราวของกลุ่มเด็กที่ได้ผจญภัยไปพร้อมกับหนังสือประหลาดในโลกคู่ขนานที่มีวิญญาณมากมายนั่นไงล่ะครับ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

มันคือหนังแฟนตาซีจากญี่ปุ่นที่มีตัวละครหลักเป็นเด็กๆ ที่เล่าเรื่องเหล่าเด็กที่คำขอบางอย่าง พาพวกเขาไปผจญภัยร่วมกันในดินแดนที่มีแต่วิญญาณพร้อมกับหนังสือประหลาดเล่มหนึ่ง ที่ใช้สะสมวิญญาณ ให้ฟีลเหมือนดูกู๊สบั๊มพ์ โกสต์บัสเตอร์ โปเกมอน และแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคแรกๆ เป็นหนังที่ดัดแปลงหนังสือชุดเล่าเรื่องผี ที่ให้ความเพลิดเพลิน แถมยังสร้างกำลังใจเหล่าเด็กๆ ให้พวกเขาใช้ทั้งกล้า ความฉลาด ที่มีเพื่อทำสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริง

แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีความเป็นเด็กอยู่สูง แต่กลับทำน้ำตาซึมในตอนจบได้แฮะ

เรื่องย่อหนัง ‘Ghost Book’

มันเป็นเรื่องราวของ ซากาโมโตะ คาซึกิ (โจ ไคริ/Jyo Kairi จากหนังเรื่อง ‘Shoplifters’) กับเพื่อนสนิท 3 คน ที่ได้พบกับร้านหนังสือลึกลับ ที่มีคุณเจ้าของร้าน (คามิกิ ริวโนะสุเกะ/Ryunosuke Kamiki จากหนังเรื่อง ‘Suzume’ และ ‘Bakuman’) ดูแลอยู่

ภายในร้านแห่งนี้ มีหนังสือหน้าตาประหลาดๆ ที่หน้าปกเขียนไว้ว่า ‘โกสต์บุ๊ก’ วางอยู่บนชั้น หนังสือเก่าแก่เล่มนี้ หากใครได้ครอบครองจะขอให้ความปรารถนากลายเป็นจริงได้ทุกอย่าง ในทุกหน้าของหนังเล่มนี้ที่พวกเขาเปิดและขอพร จะเรียกปิศาจจากอีกโลกออกมาปรากฏตัวทุกครั้ง

แต่นอกจากพวกเขาทั้งสี่แล้ว ก็ยังมี ฮามาดะ โยโกะ (อารางากิ ยูอิ/Yui Aragaki จากหนังเรื่อง ‘Sky of Love’ และ ‘Hanamizuki’) คุณครูคนใหม่ที่ได้เข้ามาสอนแทนคุณครูคนเก่าผู้ลาคลอด ที่ตามเข้ามาด้วย พรของพวกเขาจะเป็นจริงหรือไม่ และพวกเขาจะหลุดพ้นจากโลกแห่งวิญญาณกลับมาได้หรือเปล่า ต้องมาติดตามกัน

รีวิวหนัง ‘อัศจรรย์หนังสือดูดวิญญาณ’

นี่คือผลงานเรื่องล่าของ ทาคาชิ ยามาซากิ ผู้กำกับหนังดังมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘Always: Sunset on Third Street’ ทั้งสามภาค, ‘Parasyte Part I’, ‘Parasyte Part II’, ‘โดราเอมอน Stand by Me’ ทั้งสองภาค และล่าสุดคือ ‘Godzilla Minus One’ ดัดแปลงมาจากชุดหนังสือภาพ หนังเรื่องนี้มีอีกหนึ่งว่า ‘Yokaipedia’

ด้วยความตั้งใจของโปรดิวเซอร์ เคนจิ ยามาดะ ที่อยากจะสร้างหนังแฟนตาซีที่มีตัวเอกเป็นเด็กขึ้นมา เพราะหนังญี่ปุ่นในสไตล์นี้ถือว่ามีอยู่น้อยมากๆ หลังได้พบกับหนังสือสารานุกรมผี Obake Zukan (おばけずかん) เมื่อ 3 ปีก่อน พร้อมกับได้ข้อมูลจากหลานว่ามันเป็นหนังสือที่ป็อปปูลาร์มากๆ จึงได้เริ่มโปรเจกต์นี้ขึ้นมา

เอาเข้าจริงแล้ว เรื่องราวในหนังมันมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เล่าไปในเรื่องย่อ ซึ่งถ้าบอกมากไปก็จะถูกหาว่าสปอยล์ไปอีก ฉะนั้น จึงเผยได้คร่าวๆ เพียงว่า เพื่อนซี้ทั้งสี่ได้ไปผจญภัยร่วมกันในโลกคู่ขนานที่มีเฉพาะวิญญาณ พร้อมด้วยหนังสือหน้าตาประหลาดเล่มหนึ่ง ที่จะปรากฏข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับวิญญาณที่พวกเขาต้องเก็บสะสมให้ครบ

ในเมื่อมันเป็นหนังเด็ก มันจึงเลือกใส่กติกาที่ค่อนข้างง่าย เด็กๆ ต้องเก็บสะสมวิญญาณให้ครบจึงจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา ฟีลเหมือนดูหนังโปเกมอนเลย แต่ในระหว่างการเก็บสะสมวิญญาณแต่ละครั้งนั้น พวกเขาต้องช่วยกันหาหนทางเอาเอง เพียงแต่ทุกครั้งมีชีวิตของพวกเขาเป็นเดิมพัน มันเลยเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นมา ขณะที่ปีศาจแต่ละตัวที่โผล่ขึ้นมาก็เหมือนเป็นบททดสอบความสามารถ มีทั้งโหดร้ายและใจดี แต่ใดๆ พวกมันมีความน่ารักคาวาอี้ชวนยิ้ม ทำให้หนังมีหัวใจความเป็นเด็ก ให้ทั้งความบันเทิงและเพลิดเพลิน

ความน่าสนใจของหนัง ก็คือ มันรวบรวมเอาปีศาจหรือวิญญาณตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นเข้ามาและสร้างเรื่องราวการผจญภัยของแก๊งเด็กกับครู แม้ว่าบทหนังบางช่วงจะยังดูขัดๆ แต่มันก็เป็นหนังที่ให้กำลังใจเด็ก ที่กำลังจะปัญหาอะไรบางอย่างในชีวิต หนังต้องการจะบอกพวกเขาว่า อย่าได้ยอมแพ้ อย่าได้ท้อถอย เมื่อมีความปรารถนาแล้วต้องมุ่งมั่นและพยายาม พวกเขาต้องใช้ความฉลาด ความกล้า และความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้

ในด้านเทคนิคพิเศษ ต้องบอกเลยว่า ซีจีเรื่องนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะฉากห้องที่เลื่อนไปมานั่น งานเนี้ยบมาก ดนตรีประกอบก็ทำออกมาในสไตล์เดียวหนังแฟนตาซีเด็กเรื่องอื่นๆ ส่วนด้านการแสดงนั้น นายแพทมองว่า นักแสดงเด็กเล่นกันได้ดีทุกคนเลย ส่วนตัวชอบน้อง Ayaka Yoshimura ที่เล่นเป็นมินาโตะ น้องน่ารักดี ขณะที่ Yui Aragaki เธอสวมบทบาทคุณครูได้อย่างมีมิติเลยล่ะ

ดูหนังจบแล้ว ไม่ต้องรีบลุกไปไหนนะ ดูเครดิตให้จบ ก่อนจะพบกับฉากพิเศษที่รอทุกคนอยู่

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง