ดูเหมือนหลายๆ ที่ในบ้านเรายังคงตกอยู่ท่ามกลางฝนที่พรำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาไม่สนช่วงเวลา แต่ก็คงไม่สามารถจะห้ามไม่ให้เราได้พบเจอกับหนังเรื่องใหม่ๆ ที่แวะเวียนเข้ามาทักทายตามโรงภาพยนตร์อยู่เสมอ ‘We Are Your Friends’ เรื่องนี้ก็เช่นกัน หนังฟอร์มเล็กๆ ที่หามุมให้กับตัวเองจนเจอ นำเสนอเรื่องราวความฝันของหนุ่มนักดนตรีผู้มีไฟ
ผลงานจากผู้กำกับที่ไม่คุ้นชื่ออย่าง Max Joseph กับหนังที่มีดนตรีเต้นรำเป็นเครื่องปรุงที่สำคัญ เป็นงานภาพยนตร์ขนาดยาวแบบจริงจังครั้งแรก แถมยังได้ดาราหนุ่มหล่อชื่อดังอย่าง Zac Efron มาประกบกับสาวนางแบบอกสวยอย่าง Emily Ratajkowski ใช้งบสร้างไปเพียง 3.6 ล้านเหรียญเท่านั้น
ได้เข้าฉายในไทยรอบสื่อในโรงใหญ่อย่างสยามพาวาลัยเลยทีเดียวนะเธอ
เรื่องย่อหนัง ‘We Are Your Friends’
มันคือเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิก 4 คนต่างนิสัยและความสามารถ โดยมีหนุ่มสุดหล่ออย่าง โคล (Zac Efron) ที่ไม่สนเรียนแต่ฝักใฝ่ในการเป็นดีเจเปิดเพลงแดนซ์ตามคลับและปาร์ตี้ต่างๆ เขาฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เข้าใจศาสตร์แห่งการปลุกเร้าผู้คนในปาร์ตี้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนยังไม่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสายนี้เท่าไหร่
เขากับเพื่อนอีกสามคนพยายามแล้วที่จะเติบโตในด้านนี้ แต่ดูเหมือนกับมันก็ยังไม่ไปถึงไหน ในที่สุดพวกเขาจึงต้องออกมารับงานเป็นลูกน้องของบริษัทนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ โคลบากบั่นเก็บเงินเพื่อสักวันเขาจะได้ทำตามอย่างที่ฝัน แต่ในระหว่างนั้น เขาก็ได้พบกับ เจมส์ รี้ด (Wes Bentley) ดีเจชื่อดังที่ความสนิทสนมชักพาให้เขามาถึงบ้าน ได้รู้จักกับแฟนสาวของเจมส์อย่าง โซฟี (Emily Ratajkowski) ได้เรียนรู้ที่สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
และที่สำคัญมันทำให้เขาได้พบรักที่พร้อมจะทำชีวิตของเขาพังลงเสียด้วย
รีวิวหนัง ‘We Are Your Friends’
น่าเสียดายนิดหน่อยที่ช่วงเริ่มต้นของหนังนั้น ทำออกมาได้ไม่ค่อยน่าสนใจนัก แม้จะพยายามแล้วที่เริ่มต้นอย่างสนุกสนาน หากแต่มันกลับไม่ช่วยให้เราเข้าถึงพวกเขาได้มากสักเท่าไหร่ อีกทั้งเพลงในช่วงต้นนั่นก็เหมือนจะบันทึกเสียงได้ไม่ดีพอ จนไม่รู้สึกเร้าใจในฐานะที่เป็นหนังเพลงแดนซ์ จนถึงตอนที่โคล พระเอกของเราได้รู้จักกับ เจมส์ รี้ด คนดังนั่นแล
ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งของ เรื่องราวของเด็กวัยหนุ่มที่มีความฝันและไต่ตะกายเพื่อให้ประสบความสำเร็จนั้นคงไม่ได้เรื่องใหม่ แต่เรื่องราวของคนที่รักดนตรีแดนซ์และใฝ่ฝันอยากจะมีชื่อในฐานะดีเจนั้นยังไม่เคยพบพานมาก่อน แม้ว่าจะดูๆ ไปแล้วเราก็ไม่พบว่า ชีวิตของเขาจะเดายากแต่ประการใด หรือแสงสีของคลับปาร์ตี้จะไม่ถูกพบเจอ แต่สิ่งที่ช่วยหนังไว้อย่างเต็มๆ ก็คือ
“เพลงและการบันทึกเสียงที่ดี”
ในหนัง สาวๆ คงได้ปลื้มปริ่มกับหน้าหล่อๆ ของ แซค เอฟรอน ที่วาดลวดลายการเป็นดีเจได้ดีพอตัว และหนุ่มๆ ก็อาจจะได้ฟินไปกับสาวสวยหน้าคมนมโตอย่าง เอมิลี่ ในบทของโซฟี แต่นั่นก็คงยังไม่พอ ถ้าหนังเพลงแดนซ์จะไม่มีดนตรีแดนซ์ที่มันถึงใจจนคนดูอยากจะลุกขึ้นขยับร่างตามไปด้วย มันก็คงจะมิใช่หนังที่สะใจคอแดนซ์ไปได้
และ ‘วี อาร์ ยัวร์ เฟรนด์ส’ ก็ทำไว้ได้ค่อนข้างดีทีเดียว
ค่อยๆ เพิ่มดีกรีความสนุกความมันให้มากขึ้นตามเวลาของหนัง จนพีคสุดในเพลงสุดท้าย ซึ่งต้องชมในโรงภาพยนตร์ที่มีระบบเสียงดี ทุกอย่างมันจะกึกก้องรอบตัว หัวใจจะเต้นรัวจนต้องขยับขาตามเลยล่ะ
คนที่หวังจะเติบโตบนเส้นทางดนตรีน่าจะได้อะไรกลับไปเพิ่ม บทเพลงบทแรกที่จะเปิดตัวพวกเขาควรจะเป็นเช่นไร ในหนังคงจะบอกเล่าแนวคิดให้เขาได้ลองกลับเอาไปคิดและลองทำดู
แม้การเดินเรื่องจะไม่ค่อยทรงพลังอะไรมากนัก สะดุดกันไปเป็นช่วงๆ เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีถึงขั้นโดนใจจนต้องร้องโอ้ว เนื้อหาอาจจะมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวอย่างเต็มๆ แต่สำหรับคนที่ชอบและรักการฟังเพลงแดนซ์ คนที่ชอบเดินเข้าผับไปเต้นยักย้ายก็น่าจะถูกใจกับเพลงที่ถูกใช้ในหนังเรื่องนี้
แม้ว่าเขาจะเลือกตอนจบได้ดี แต่ก็รู้สึกได้ว่ายังแดนซ์ไม่อิ่มเลยสิพับผ่า
ชื่อภาพยนตร์: We Are Your Friends / วี อาร์ ยัวร์ เฟรนด์ส
ผู้กำกับภาพยนตร์: Max Joseph
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Max Joseph (screenplay), Meaghan Oppenheimer (screenplay),
นักแสดงนำ: Zac Efron, Wes Bentley, Emily Ratajkowski, Jonny Weston, Shiloh Fernandez, Alex Shaffer, Jon Bernthal
ความยาว: 96 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Music, Romance
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 ตุลาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Polygram Filmed Entertainment, StudioCanal, Working Title Films
วี อาร์ ยัวร์ เฟรนด์ส
We Are Your Friends - 6
6
We Are Your Friends
แม้การเดินเรื่องจะไม่ค่อยทรงพลังอะไรมากนัก We Are Your Friends สะดุดกันไปเป็นช่วงๆ เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีถึงขั้นโดนใจจนต้องร้องโอ้ว เนื้อหาอาจจะมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวอย่างเต็มๆ แต่สำหรับคนที่ชอบและรักการฟังเพลงแดนซ์ คนที่ชอบเดินเข้าผับไปเต้นยักย้ายก็น่าจะถูกใจกับเพลงที่ถูกใช้ในหนังเรื่องนี้