คุณกำลังรออยู่ใช่ไหม กับเรื่องราวสนุกๆ ในซีซันใหม่ของซีรีส์ย้อนยุคกลับไปในวันที่ยังไม่มีโชซอน ไม่มีเกาหลี ไม่มีชาติ ในวันที่คาบสมุทรเกาหลีกำลังจะมีปฐมราชา หลายคนเฝ้ารอเมื่อไหร่จะได้เห็นทากน อึนซอม ทันยา และอาซาอีกครั้งในจอทีวี โอกาสนั้นมาถึงแล้ว กับ ‘Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun’ ซีรีส์ภาคต่อที่เล่าถึงช่วงเวลา 8 ปีหลังเหตุการณ์ในซีซันแรก ‘Arthdal Chronicles’
ซีซันแรกสร้างและได้รับการฉายกันไปในปี 2019 จากนั้น ก็ปล่อยให้ผู้ชมรอคอยกันนาน 4 ปี ก่อนจะได้ดูซีซันต่อมา แม้จะยังเป็นคู่หูนักเขียนบทคนเดิม แต่ก็มีเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตั้งแต่ตัวผู้กำกับที่ซีซันนี้เป็น คิมควังซิก ยังไม่ค่อยมีใครได้สัมผัสผลงานนัก กับนักแสดงอีกกลุ่มใหญ่ที่เปลี่ยนหน้ากลายเป็นคนใหม่ในบทบาทเดิม จาก ซงจุงกิ เป็น อีจุนกิ, จาก คิมจีวอน เป็น ชินเซคยอง และอีกหลายตัวละคร
เอาเป็นว่า ตอนนี้มาอ่านเรื่องย่อๆ ของซีซันที่สองของตำนานแห่งอาธดัลกัน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun’
8 ปีหลังจากจบภาคต้น อาณาจักรอาธดัลมีปฐมราชาเรียบร้อยแล้ว ทากน (Jang Dong Gun/จางดงกอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Arthdal Chronicles’ และหนังเรื่อง ‘Rampant นครนรกซอมบี้คลั่ง’) คือราชาองค์แรกผู้ปกครองที่ทรงอำนาจ แต่ต้องเก็บซ่อนความเป็นอีกึตเลือดสีม่วงไม่ให้ใครล่วงรู้ ขณะที่แทอารา (Kim Ok Vin/คิมอ๊กบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Love to Hate You’ และ ‘Dark Hole’) กลายเป็นราชินีที่ทรงอำนาจเฉกเช่นกัน ทั้งสองมีบุตรร่วม อารก คือองค์ชายที่นางอยากให้ขึ้นเป็นรัชทายาท ขณะที่ ทันยา ก็ได้เป็นหัวหน้านักบวช (Shin Se Kyung/ชินเซคยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Run On’ และ ‘The Bride of Habaek’) ผู้ครอบครองศาลมหาเทพ
ส่วนซายา (Lee Joon Gi/อีจุนกิ จากซีรีส์เรื่อง ‘Again My Life’ และ ‘Flower of Evil’) ตอนนี้เขากลายเป็นแม่ทัพที่คุมทหารไปปราบปรามชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งเผ่าอาโก ที่มีผู้นำคนใหม่เป็นอิไนชินกิ ซึ่งต้องตกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าเขาผู้นั้นมีใบหน้าเหมือนกันกับตน
ในความเป็นจริงแล้ว อิไนชินกิผู้กลับชาติมาเกิดใหม่คนนี้ ก็คือ อึนซอม (Lee Joon Gi/อีจุนกิ อีกเช่นกัน) คนที่เป็นเบเนตบอตของซายานั่นเอง
แต่นอกจากซายาจะต้องเจอกับศึกนอกแล้ว เขาก็ยังเจอศึกในอีกเช่นกัน นั่นคือศึกชิงตำแหน่งรัชทายาท เพราะราชินีแทอาราก็มุ่งหมายจะให้องค์ชายอารกรับตำแหน่งนี้ แทนที่จะเป็นเขาซึ่งไม่ได้ใช่ลูกชายแท้ๆ ของนาง ทว่าระหว่างก่อเหตุลอบสังหาร ก็เกิดเหตุสับเปลี่ยนตัวระหว่างซายาและอึนซอมขึ้น
รีวิวซีรีส์ ‘Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun’
แรกเริ่มเรื่องมา ก็อาจจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง เมื่อตัวละครที่คุ้นเคยเปลี่ยนหน้าเป็นคนใหม่ไปหลายตัว จนต้องพยายามจูนสมองตัวเองอยู่พักใหญ่ แต่ใบหน้าคนเดิมยังคงซ้อนทับอยู่ไม่ขาด ไม่พยายามไปค้นหาสาเหตุว่าทำไมต้องเปลี่ยนคนแสดงไปแทบยกกระบิเช่นนี้ ตามต่อเลยละกัน
ภาคต่อของเรื่องราวที่ยังไม่จบของคนที่อาจเป็น ดาบ กระดิ่ง และกระจก สามสิ่งที่ถูกเล่าขานตามตำนานว่าวันหนึ่งมันจะเกิดขึ้นพร้อมกันและกลายเป็นวันวินาศของอาธดัล
การสับเปลี่ยนตัวของซายาผู้ไม่เคยออกไปไหนแต่ต้องออกไปอยู่ภายนอกอาธดัลในฐานะอิไนชินกิ กับอึนซอมที่ต้องสวมรอยกลายเป็นซายาตัวปลอม ทำให้เขาต้องมารับรู้ความเกลียดชังที่ชาววาฮันบางคนมีต่อตนเอง และถึงแม้จะรู้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารซายาและอึนซอม แต่เขาก็ฉลาดพอจะเอาตัวรอดภายใต้ความทะเยอทะยานของแทอารา
ด้านหัวหน้านักบวชทันยา นางได้รับญาณทิพย์จากทวยเทพ มีพลังในการอ่านใจจึงล่วงรู้ความคิดผู้คน และนางก็ใช้พลังนั้นเพื่อสร้างความรู้สึกด้านดีของผู้คน นางให้ความเอื้อเฟิ้อแก่เหล่าทาส ทำให้เหล่าทาสต่างศรัทธาต่อนางอย่างมาก ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับหัวหน้านักบวชผู้มีจิตใจพันผูกต่ออึนซอมคนนี้ นางได้พบกับเขาอีกครั้งหลังจากรอคอยมาเนิ่นนานในซีซันแรก ครั้งนี้ นางบอกว่าเขาคืออารามุนตามตำนาน ทำให้อึนซอมต้องเป็นทั้ง ‘อิไนชินกิ’ ศัตรูแห่งอาธดัล และเป็น ‘อารามุน’ ผู้มีโลหิตสีม่วง
นอกจากนี้ นีร์ฮาทันยา ยังใช้ถ้อยคำของตนแปรเปลี่ยนพลิกผันสถานการณ์เมื่อโลหิตสีม่วงของทากนปรากฏต่อหน้าผู้คน แม้บางส่วนจะยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะพวกหัวใจแห่งคีรีขาวที่มีความเชื่อว่าอารามุนเป็นอีกึตมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ก็มีหลายส่วนที่เคลือบแคลงใจเพราะความเกลียดชังที่ฝังรากลึกมายาวนาน
และตอนนี้ ก็คงถึงเวลาแห่งการประกาศว่าราชวงศ์อารามุนได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
เรื่องราวหลังจากนี้ ซีรีส์กำลังจะบอกว่าบัลลังก์ของทากนกำลังสั่นคลอนด้วยแรงต้านจากหลายทาง ที่เห็นชัดคือแทอาราที่เริ่มจะถอยห่างเพราะไม่เชื่อมั่นในตัวทากนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ ซายา อึนซอม และนีร์ฮาทันยา ทั้งสามกำลังเติบโตกล้าแข็งมากขึ้นทุกที ทากนเองก็กำลังเจอภัยจากภายในตนเอง ทั้งเห็นภาพหลอน ทั้งหูแว่ว แม้การเป็นอีกึตของตนจะถูกทันยาแก้ไขให้คลี่คลายลงได้บ้าง แต่เขาเองก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าตนเป็นอารามุนกลับชาติมาเกิดจริงๆ หรือเปล่า
อีกอย่างคือเราเองก็ไม่รู้ว่า ผลสุดท้ายแล้ว วัตถุทั้งสามนี้จะลงเอยยังไง
สิ่งที่เราจะเห็นว่าแตกต่างออกไปจาก ‘Arthdal Chronicles’ ที่เห็นได้ชัดก็คือกลุ่มนักแสดงที่เปลี่ยนตัวไปหลายคน เหลือไว้แต่เพียง ทากน และ แทอารา ที่ยังเป็นหน้าเดิม แต่ตัวละครสำคัญอื่นๆ ล้วนเปลี่ยนหน้า ไม่ใช่แค่ ซายา-อึนซอม และทันยา แต่ยังมี แชอึน ที่เปลี่ยนเป็น Ha Seung Ri/ฮาซึงรี, นุนบยอล ที่เปลี่ยนเป็น Lee Si Woo/อีซีอู จึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ก็อาจยังรู้สึกไม่ชินแม้จะผ่านไปหลายตอนแล้วก็ตาม
ยังมีอีกหลายสิ่งที่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ฉากต่างๆ ก็ล้วนสร้างใหม่ เพลงประกอบ และคอสตูมก็เช่นกัน ทั้งหมดก็ล้วนมีมาตรฐานที่ดีขึ้น และสิ่งสุดท้าย ซีรีส์ซีซันนี้มีความยาว 12 ตอน ซึ่งก็นับว่าไม่ยาวเกินความพอดี ทำให้เรื่องดูมีความกระชับ เดินหน้าไปเจอเรื่องใหม่ๆ ให้ชวนติดตามโดยตลอด
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun / 아라문의 검 |
ผู้กำกับ | Kim Kwang Sik/คิมควังซิก (เจ้าของผลงานหนังเรื่อง ‘The Great Battle’) |
ผู้เขียนบท | Kim Young Hyun/คิมยองฮยอน, Park Sang Yeon/พัคซังยอน |
นักแสดง | Jang Dong Gun/จางดงกอน, Lee Joon Gi/อีจุนกิ, Shin Se Kyung/ชินเซคยอง, Kim Ok Vin/คิมอ๊กบิน |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า, แฟนตาซี, ประวัติศาสตร์, โรแมนติก |
จำนวนตอน | ซีซัน 2: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Disney+ Hotstar |
เริ่มออกอากาศ | 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Studio Dragon, KPJ, CJ ENM, tvN, Disney+, Netflix |
คะแนนซีรีส์ Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun
พล็อตและบท - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7.5
การแสดง - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.5
7.4
Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun
สิ่งที่เราจะเห็นว่าแตกต่างออกไปจาก 'Arthdal Chronicles' ที่เห็นได้ชัดก็คือกลุ่มนักแสดงที่เปลี่ยนตัวไปหลายคน และยังมีอีกหลายสิ่งที่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ฉากต่างๆ ก็ล้วนสร้างใหม่ เพลงประกอบ และคอสตูมก็เช่นกัน ทั้งหมดก็ล้วนมีมาตรฐานที่ดีขึ้น และสิ่งสุดท้าย ซีรีส์ซีซันนี้มีความยาว 12 ตอน ซึ่งก็นับว่าไม่ยาวเกินความพอดี ทำให้เรื่องดูมีความกระชับ เดินหน้าไปเจอเรื่องใหม่ๆ ให้ชวนติดตามโดยตลอด