รีวิวซีรีส์ Last Samurai Standing ศึกซามูไรผู้พิชิต | จัดเกมล้างบางสุดมัน

ชั่วขณะเวลานาทีนี้ มีซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่คนพูดถึงกันมากพอตัว จนหยุดหัวใจไม่ให้เปิดเข้าไปดูมิได้ เรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากมังงะ หยิบเอาประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่นมาพลิกแพลง สร้างเรื่องราวให้คนดูบันเทิงไปกับการต่อสู้ของเหล่าซามูไรรุ่นสุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ใน ‘Last Samurai Standing’ หรือชื่อไทย ‘ศึกซามูไรผู้พิชิต’ ที่ออกฉายออนไลน์ในเน็ตฟลิกซ์

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้?

แม้ว่าจะเริ่มเฝือไปบ้าง เมื่อได้พบกับเรื่องราวแนวจัดเกมลุ้นตายของคนจนตรอกที่ต้องมาเข่นฆ่ากันเพียงเพื่อคว้ารางวัลก้อนใหญ่ แต่หนนี้ เขาใช้บริบทของญี่ปุ่นยุคสิ้นซามูไรมาเล่าเรื่อง หยิบคนจริงในประวัติศาสตร์มาบิดใหม่ให้กลายเป็นอีกเรื่องราวนึง และภายในนั้น ก็จะมีแต่เหตุชวนสงสัยพาให้คนดูอยากรู้อยากติดตาม บวกกับฉากต่อสู้ที่โคตรดุเดือดเลือดพล่าน ผสมผสานด้วยการมีนักแสดงหญิงน่ารัก ๆ เข้ามา และดนตรีประกอบที่สุดเร้าใจ

คาดหวังความสนุกได้ แต่ก็ต้องทำใจไว้ด้วยว่า 6 ตอน มันไม่น่าจะเล่าจบแน่ๆ ดูจบแล้วก็ค้างเติ่งรอซีซันถัดไปกันทุกคน

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Last Samurai Standing’

ซากะ ชูจิโร่ (Junichi Okada จากแอนิเมชัน ‘From Up on Poppy Hill’) อดีตซามูไรผู้มีฉายาว่า ‘มือพิฆาตโคคุชู’ ที่พรรคพวกของเขาถูกขจัดจนหมดสิ้นในศึกโบชิน จากนั้น เขาก็ใช้ชีวิตธรรมดากับภรรยาและลูก มีปัญหาทางจิตใจไม่อาจชักดาบขึ้นสู้ใครอีก แถมทางการก็ห้ามไม่ให้แตะต้องดาบ แต่เพราะโรคห่าที่ระบาดมาถึงลูกเมียนั้นแหละ ที่ทำให้เขาต้องดั้นด้นมาถึงวัดเท็นริว เมืองเกียวโต เพื่อเข้าร่วมโคโดคุ การแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัลก้อนโต — เหรียญทองสิบหมื่นเยน

กฎกติกาของการแข่งขันนั้น ผู้เข้าร่วมต้องเดินทางสะสมแต้มและรอดชีวิตไปจนถึงโตเกียวโดยห้ามถอนตัว ระหว่างทางของการแข่งขัน เขาได้พบกับ ฟุตาบะ คัตสึกิ (Yumia Fujisaki จากหนังเรื่อง ‘The Parades’) เด็กสาวที่หวังคว้าเงินไปรักษาแม่ แต่ทั้งตัวมีแค่ดาบสั้นเล่มนึงเท่านั้น

ท่ามกลางผู้ร่วมแข่งขันที่ตกตายลงไปเรื่อยๆ มีบางคนที่โดดเด่นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น สึเกะ เคียวจิน (Masahiro Higashide จากหนังเรื่อง ‘Asako I & II’) ที่เป็นจอมวางแผนและชักชวนทั้งสองมาเป็นพันธมิตร, อิโรฮะ คินุกาสะ (Kaya Kiyohara จากหนังเรื่อง ’18×2 Beyond Youthful Days’) ศิษย์น้องของพี่ชู, คามุย โคจะ (Shota Sometani จากหนังเรื่อง ‘Parasyte: Part 1’) ชาวไอนุมือธนูจากเผ่าที่เชื่อว่าการฆ่าเด็กคือความชั่วร้าย, คันจิยะ บุคตสึ (Hideaki Ito จากซีรีส์ ‘Tokyo Vice’) ซามูไรเศษเดนผู้ใส่เสื้อผ้าขาดรุงรัง นอกจากมี คิคุโอมิ อุเคียว เทพพิทักษ์ราชสำนักชื่อกระฉ่อน แล้วก็ยังมีตาแก่ผมขาวที่ว่องไวเกินรูปลักษณ์อย่าง เก็นโตไซ อีกด้วย

ไม่มีใครล่วงรู้ว่า ผู้จัดการแข่งขันเป็นผู้ใด และมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงอยู่ ชะตากรรมของผู้เข้าร่วมที่เหลือรอดไปถึงโตเกียวจะเป็นเช่นไร ต้องติดตามกันเอานะครับ

รีวิวซีรีส์ ‘ศึกซามูไรผู้พิชิต’

เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้ ใช้บริบทของญี่ปุ่นในอดีตมาสร้าง ใช้ชื่อบุคคลจริงในประวัติศาสตร์มาบิดให้กลายเป็นสตอรี่การต่อสู้ของเหล่าซามูไรกลุ่มสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่หลังสงครามและหลังถูกปืนใหญ่จากกองกำลังปริศนาเข้ากวาดล้าง ในช่วงเวลานั้น ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคใหม่กับการปกครองที่ถูกเปลี่ยนแปลง จากยุคโชกุน กลายเป็นยุคจักรพรรดิ

เหล่าซามูไร จะว่าไปก็เหมือนเป็นคนยุคเก่าที่ทางการเลือกจะละทิ้งและบีบบังคับให้ต้องทิ้งดาบ พวกเขาต้องดิ้นรนอยู่กับความยากไร้ท่ามกลางชีวิตที่แตกต่างไป การละเล่นครั้งนี้นี่แหละที่จะพาพวกเขาหวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง แม้ว่าจะทำให้พวกมีฝีมือต้องมาเข่นฆ่ากันเอง พวกเขาบางคนก็สงสัยว่า ผู้จัดงานเป็นใคร เป้าหมายเป็นอะไร เงินสิบหมื่นเยนที่ให้จะเป็นจริงงั้นหรือ รู้แต่พวกนี้มันใหญ่พอตัวเลยทีเดียว

เงินรางวัลล่อตาล่อใจ มีคนมาร่วมทั้งประเทศถึงเกือบ 300 คน แต่จะเหลือสักกี่คนที่จะผ่านไปถึงโตเกียว

โครงสร้างของเรื่องมันดูไม่ต่างจากหนังและซีรีส์แนวเกมลุ้นตายที่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ การจับเอาคนที่จนตรอกกำลังต้องการเงินมาเล่นเกมเสี่ยงชีวิต ต้องฆ่ากันเอง เพื่อรอดชีวิตและคว้าเงินรางวัลก้อนใหญ่ ทั้งมีผู้จัดที่แสนสำเริงสำราญกับเกมที่คร่าชีวิตคน

ทว่า มันก็เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ใส่บริบทญี่ปุ่นในอดีตไปอย่างครบ นักดาบผู้ถูกทางการทอดทิ้งที่ไม่พอใจในรัฐบาลใหม่ สงครามกลางเมืองเมื่อปีกลาย ส่งผลให้พวกเขาเหลือรอดไม่เท่าไหร่ แต่ต้องตกระกำลำบาก อดมื้อกินมื้อเพราะปรับตัวใช้ชีวิตโดยไร้ดาบและการฆ่าคนไม่ได้อีกแล้ว เมื่อลำบากหนัก เจอข่าวเกมลุ้นตายชิงเงินก้อนโต มองมันเป็นทางรอดเดียวที่ต้องคว้าไว้

เรื่องราวในซีรีส์ซีซันแรกนี้ ใส่ตัวละครมาอย่างครบและหลากหลาย พระเอกที่มีครอบครัวแล้วต้องกระเตงตัวภาระอย่างเด็กสาวที่ไร้วิชา อดีตซามูไรบุคลิกบ้าบิ่นที่อาฆาตมาดร้ายพระเอก มีตัวเก่งวางแผนที่รวบรวมทีมเพื่อภารกิจบางอย่างที่ไม่เปิดเผย สาวสวยใจเด็ดที่เป็นศิษย์ผู้น้องของพระเอก ชายผมขาวที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ที่กำลังตามล่าใครบางคน รวมทั้งนักดาบหน้าบากผู้สวมชุดทหารที่น่าจะเคยเป็นซามูไรมาก่อน

ด้านกติกาของเกม ก็เป็นการเก็บป้ายให้ได้จำนวนที่กำหนดเพื่อผ่านไปยังจุดถัด ๆ ไป พวกเขาต้องเดินทาง ฆ่า และเดินทาง เพื่อจะไปยังจุดหมายปลายทาง เกมหนนี้ มีหมดทั้งผู้จัดเกม มีผู้ชมเป็นกลุ่มทุนทั้งสี่ผู้หนุนหลัง และก็ยังทั้งมีการพนันขันต่อกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย

การเดินทางของเหล่านักดาบที่มีจุดหมายเป็นโตเกียว อาจมีนัยยะน่าหวาดหวั่นต่อกระทรวงมหาดไทย ที่นำโดย โอกุโบะ (Arata Iura จากหนังเรื่อง ‘Air Doll’) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พวกเขาเกรงกลัวการปฏิวัติ พวกเขาต้องสืบให้ได้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้จัดเกมนี้และมีจุดมุ่งหมายอย่างไร งานนี้ โอกุโบะต้องทำงานร่วมกับ คาวาจิ (Gaku Hamada) ผู้ว่าการของกรมสันติบาลผู้ไม่ค่อยน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่

บทซีรีส์หลอกล่อให้คนดูติดตามเรื่องราวด้วยความน่าสงสัยหลายประการ อาจมีใครคิดแผนการหักล้างถอนโคนเหล่านักดาบให้สิ้นซากอยู่ก็ได้ ในระหว่างนั้น ก็ขายฉากการต่อสู้นองเลือดของผู้ร่วมเล่น ซีนบู๊ถือเป็นกำลังหลักที่ทำให้คนดูได้ตื่นเต้น พวกเขาทำมันออกมาได้ดีเลยล่ะ บางฉากก็เป็นลองเทค และหลายฉากก็เต็มไปด้วยความโหด มีดนตรีประกอบที่ชวนตื่นเต้น

ระหว่างดู ผู้ชมก็คงสงสัยใคร่รู้ว่าชายผมขาวคนนั้นเป็นใครและกำลังตามล่าใครอยู่ เรื่องราวจะค่อยๆ เฉลยให้เราได้รู้ พร้อมๆ กับการรวมตัวของกลุ่มคนเพื่อพากันผ่านพ้นสู่พื้นที่สุดท้าย

แม้ในโลกแห่งความจริง หลายชื่อในนั้นจะกระทำในอีกรูปแบบ แต่การวางพล็อตเรื่องเช่นนี้ ก็สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมไม่น้อย อาจะดูซีรีส์แล้วรู้สึกว่ามันเหมือน ‘The Running Man’ หรือเหมือนกับ ‘Squid Game’ ที่คนเริ่มจะชินตา แต่เมื่อคนเขาทำถึง มอบบริบทที่แตกต่างออกไป ใส่ฉากต่อสู้ถึงพริกถึงขิง คนดูก็ยังสนุกกับมันได้อยู่แหละน่า

ในครั้งนี้ ไอเดียของการจัดเกมการแข่งขัน มันได้มอบโอกาสได้พวกเขาได้มีชีวิตในฐานะซามูไรอีกครั้ง มอบโอกาสให้อาจารย์คลั่งบางคนได้เข่นฆ่าศิษย์ของตนเองอีกครั้ง ใครโอกาสบางคนได้ต่อสู้เพื่อครอบครัวตัวเองอีกครั้ง แต่ก็อย่างที่รู้ๆ 6 ตอนสำหรับเกมลุ้นตายชิงรางวัลก้อนใหญ่ มันน้อยเกินไป

งั้นก็ต้องรอคอยซีซันสองกันไปสินะ ท่านผู้ชม

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์