‘The Atypical Family’ ความหลอกลวงจะกลายเป็นความจริงใจได้หรือเปล่า

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงครอบครัวที่พลังวิเศษ แต่พลังเหล่านั้นกลับหดหายไปเพราะหลายปัญหารุมเร้า และเล่าถึงหญิงสาวต้มตุ๋นที่แทรกซึมเข้ามา ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังถลำใจ แต่ขณะเดียวกัน เธอก็ได้ทำให้ครอบครัวที่หม่นหมองนี้เปลี่ยนแปลงไป ความลับที่เธอซ่อนไว้ จะถูกเปิดโปงหรือไม่? แล้วการหลอกลวงมันจะกลายเป็นความจริงใจได้หรือเปล่า? ไปดู ‘The Atypical Family’ หรือชื่อไทย ‘ครอบครัวเหนือธรรมชาติ’ ด้วยกันครับ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Atypical Family’

ซีรีส์เรื่องนี้ว่าด้วยชีวิตของคนในครอบครัวหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษ เริ่มต้นด้วย บกกวีจู (จางกียง จากซีรีส์ ‘Now, We Are Breaking Up’) ลูกชายของบ้านหลังนี้ที่มีพลังในการย้อนกลับไปพบเจอกับเหตุการณ์ความสุขในอดีตแต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร ทว่าเพราะความสูญเสียภรรยาสุดที่รักเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ทำให้เขากลายเป็นโรคซึมเศร้าจนสูญเสียพลังและไม่สามารถย้อนกลับไปอดีตได้อีก ทำให้บกอีนา (พัคโซอี จากซีรีส์ ‘See You in My 19th Life’ ) ลูกสาววัย 13 ขวบของเขาต้องดิ้นรนเพียงลำพัง

แต่ในระหว่างนั้น โดดาแฮ (ชอนอูฮี จากซีรีส์ ‘Delightfully Deceitful’  และ​ ‘The 8 Show’) ก็เข้ามา เธอได้รู้จักกับทั้งบกกวีจูและครอบครัวของเขา ก่อนที่เธอจะได้เข้ามาอยู่ร่วมกับพวกเขาและเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง

‘ครอบครัวเหนือธรรมชาติ’ หนึ่งครอบครัวที่สูญเสียพลังเพราะโรคสมัยใหม่

มันเหมือนจะเป็นซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ แต่ก็ไม่เชิง เพราะมันตั้งใจจะเล่าเรื่องของครอบครัวพลังเหนือธรรมชาติที่ถูกปัญหาชีวิตและสุขภาพพรากพลังที่พวกเขามีให้จากไป เริ่มต้นกันที่หัวหน้าครอบครัวอย่าง บกมันฮึม (โกดูชิม จากซีรีส์ ‘Island เกาะปีศาจ’) คุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้ที่มีพลังในการมองเห็นอนาคตผ่านความฝัน แต่เธอกำลังประสบปัญหานอนไม่หลับจนไม่สามารถฝันได้อีก เธอได้สามีอย่าง ออมซุนกู (โอมันซอก จากซีรีส์ ‘Wonderful World’) ผู้ไม่มีพลังอะไร

คนต่อมา บกดงฮี (Soo Hyun/ซูฮยอน/คลอเดีย คิม จากซีรีส์ ‘Gyeongseong Creature’) พี่สาวคนสวยระดับซูเปอร์โมเดลที่มีพลังในการบิน แต่ตอนนี้เธอบินไม่ขึ้นด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มมาก เคยลดความอ้วนแล้วก็เจอโยโย่จนกลับมาอ้วนอีก ตอนนี้ก็พยายามดิ้นรนเต็มที่เพื่อที่จะแต่งงานแล้วออกไปมีครอบครัวใหม่ ด้วยการเอาเงินไปประเคนให้กับ ผอ. คลินิคเสริมความงาม

แล้วก็มาถึงพระเอกของเรา บกกวีจู คุณพ่อลูกหนึ่งที่มีความสามารถในการย้อนอดีตไปพบเจอช่วงเวลาอันแสนสุขแต่ก็พบว่าย้อนไปก็เท่านั้น ย้อนไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ยิ่งเจ็ดปีก่อน เขาสูญเสียภรรยาไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนไม่เหลือความสุขใดให้ย้อนกลับไปอีก ตอนนี้ เขาเป็นโรคซึมเศร้า กินเหล้าและไวน์เมาทั้งวัน จนไม่ค่อยได้ดูแล บกอีนา ลูกสาววัยสิบสามเท่าที่ควร อีนากลายเป็นเด็กที่ติดมือถือและไม่แสดงออกถึงพลังวิเศษใดๆ

การเข้ามาถึงของหญิงสาวผู้ไม่น่าไว้ใจ

ไม่ค่อยได้เห็นบทบาทของเธอในซีรีส์นัก แต่ ชอนอูฮี มีผลงานหนังมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘The Anchor เจาะข่าวผี’ ที่เข้าฉายเมืองไทย และยังเคยไปร่วมเล่นใน ‘The Wailing’ ด้วย ครั้งนี้ ได้เจอเธอในซีรีส์ทางเน็ตฟลิกซ์ กับบทบาทของหญิงสาวผู้เข้าหาครอบครัวนี้อย่างจงใจ ทีแรก ผู้ชมก็คิดว่าเธอเข้ามาอย่างบังเอิญ ก่อนจะได้รู้ว่าที่จริง เธอมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอยู่

อูฮีเล่นเป็น โดดาแฮ หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานเป็นหมอนวดคนใหม่ในอิลลูชั่นสปาที่บกมันฮึมใช้บริการอยู่ การเข้าทางแม่ของฝ่ายชายทำให้เธอได้เข้าบ้านของครอบครัวบก และได้รู้จักกับลูกชายซึมเศร้าอย่างกวีจู แม้การเข้าหาของดาแฮดูมีเงื่อนงำ และเธอเคยแต่งงานแล้ว แต่ดูเหมือนคุณผู้หญิงของบ้านนี้จะไม่ได้ใส่ใจ ด้วยเพราะต้องการพาลูกชายหลุดพ้นจากอาการซึมเศร้าเพราะคนรักเก่า

ความจริงแล้วครอบครัวนี้มีฐานะที่ดีเอามากๆ พวกเขาร่ำรวย มีคฤหาสน์หลังโต ทั้งที่มีกิจการของตนเองแค่ฟิตเนสอย่าง “บกยิม” ซึ่งนั่นก็ทำให้เกรซ (รยูอาเบล จากซีรีส์ ‘A Good Day to Be a Dog’) แทรกซึมเข้าไปเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวและขัดขวางความสัมพันธ์ของดงฮีกับ ผอ.คลินิก นอกจากนี้ ก็ยังมีแบคอิลฮง (คิมกึมซุน จากหนังเรื่อง ‘Broker จัดหารัก’) แห่งวังซาวน่า คนที่เป็นเสมือนแม่ผู้ทำงานนวดไม่ต่างจากเธอ และก็มีชายหนุ่มอีกคน โนฮยองแท (ชเวควังรก จากซีรีส์ ‘Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun’) คุณน้าที่ช่วยทำให้ทุกอย่างลุล่วง

ด้วยแนวทางมันมีความเป็นซีรีส์ชนชั้นอยู่ในที เมื่อมันเล่าเรื่องของหญิงสาวที่ยากจนผู้ได้เข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่ของครอบครัวร่ำรวย แต่จะเห็นว่าโดดาแฮก้าวเข้าไปในบ้านหลังนี้ในลักษณะของพวกต้มตุ๋นด้วยความจำเป็นบางอย่าง แต่การต้มตุ๋นครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วๆ มา เพราะดาแฮกำลังมีใจให้กับชายหนุ่มลูกหนึ่ง

แง่มุมยิบย่อย ในซีรีส์(ที่เหมือนจะเป็น)แนวซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้

เรื่องราวเดินไปโดยการทิ้งปริศนาไว้พร้อมกับร่องรอยให้คนดูสังเกต จากนั้น ก็ค่อยมาเฉลยให้คนดูร้องอ๋อกันอีกที โดยใช้ประโยชน์จากพลังที่บกกวีจูสามารถย้อนกลับไปในอดีตเพียงหลับตานึกถึง แต่เราก็จะเห็นว่าพลังของคนในครอบครัวนี้ ค่อนข้างมีขีดจำกัด ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนอย่างเรื่องอื่นเขา และการเข้ามาในบ้านคนรวยของนางเอกกำลังจะทำให้สมาชิกของบ้านนี้เปลี่ยนแปลงไป พลังที่หดหาย กำลังฟื้นคืน แม้ว่าเธอจะเป็นพวกต้มตุ๋นก็ตาม

อันที่จริง พลังวิเศษของแต่ละคนในบ้านก็ดูจะสัมพันธ์กับบุคลิกของแต่ตัวละครอยู่เหมือนกัน มันฮึม ผู้เป็นแม่ที่วาดหวังอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี เธอจึงมีพลังเห็นอนาคตในความฝัน, กวีจูเป็นพ่อที่รู้สึกว่าตนไม่อาจปกป้องใครได้ ที่จริงในใจเขาจะอยากให้คนอื่นมีความสุข เขาจึงมีพลังในการย้อนเวลาไปพบเจอความสุข ขณะที่ดงฮี เธอมีพลังแห่งการบินแต่ต้องสูญเสียมันไปหลังกลายเป็นโรคอ้วน แต่กับดาแฮ เธอมองว่าตัวเองไร้ค่า ในเรื่องนี้เธอจึงไม่มีพลังวิเศษใด เธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่า เธอยังมีพลังอื่นที่แม้ไม่เหนือธรรมชาติแต่ก็วิเศษอยู่เช่นกัน

ขณะที่พลังของอีนา เด็กสาวที่ไร้ตัวตนในโรงเรียนก็กลายเป็นที่สังสัยในตอนแรก ก่อนที่มันจะถูกเปิดเผยในเวลาต่อมา และก็เป็นพลังที่สำคัญต่อการเดินเรื่องพอสมควร

การผูกเรื่องราวของเรื่องก็นับว่าน่าสนใจดี ครอบครัวเหนือธรรมชาติผู้ร่ำรวยที่เผชิญปัญหาสุขภาพจนทุกคนสูญเสียพลังวิเศษ และต้องเจอกับแก๊งต้มตุ๋นที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อหวังให้เกิดการแต่งงานและปอกลอกแล้วหาทางเขี่ยทิ้ง พล็อตสไตล์คนมีความลับแต่ก็ตกม้าตายเพราะมีความรัก อะไรแบบนั้น นอกจากนี้ การที่คนหนึ่งต้องปิดบัง ท่ามกลางครอบครัวที่คิดเห็นแตกต่าง ก็จะมีทั้งคนที่เชื่อก่อนค่อยมาตาสว่าง กับคนที่ไม่เชื่อเลยหาทางคัดค้าน เพราะพลังวิเศษที่กระท่อนกระแท่นเปิดช่องให้นางเอกแทรกซึมและเสี่ยงถูกเปิดโปง เรื่องราวจึงดูน่าติดตาม

บทซีรีส์มีหลายด้าน ด้านนึงมันก็เล่าถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว พ่อเป็นซึมเศร้าที่อยากได้ใจลูก ลูกสาวเก็บตัวยามอยู่ในบ้าน และเป็นพวกไร้เพื่อนเมื่ออยู่ในโรงเรียน และเล่าเรื่องของหญิงสาวที่ต้องหาทางชดใช้หนี้ที่ครอบครัวก่อไว้ให้ อีกด้านมันเล่าถึงบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ข้างใน หญิงสาวที่กลัวไฟเพราะเหตุสะเทือนใจในอดีต

ในแง่มุมของความรัก มันเล่าเรื่องการปฏิเสธความรู้สึกตัวเองของชายหนุ่มผู้มีพลังแห่งการย้อนกลับอดีต กับหญิงสาวที่เข้าหาเขาด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ท่ามกลางความพยายามจะหลอกล่อและพยายามจะรู้ทัน ที่ทำให้ความรักค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นอย่างแปลกประหลาด อีกครั้งที่คนเขียนบทต้องการจะบอกกับคนดูว่า…

“ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ มันจริงยิ่งกว่าคำหลอกลวง”

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์