และแล้วก็ได้เวลาของหนังระทึกขวัญที่ชื่อ ‘Antebellum’ หรือชื่อไทย ‘หลอนย้อนโลก’ กันแล้วล่ะครับ รวมไว้ทั้งความเป็นหนังที่เล่าเรื่องเหยียดสีผิวในสังคมอเมริกัน ทั้งยังเป็นหนังที่เกิดขึ้นในสองเวลา
เอาจริงๆ ก็ถือว่าเรื่องที่แปลกใหม่และเข้าท่าดีกับการที่หนังที่ว่าเรื่องการเหยียดสีผิวจะเล่นเรื่องการย้อนเวลา แทนที่จะเป็นหนังดราม่า มันก็กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นหนังระทึกขวัญปะปนความเป็นไซไฟนิดๆ นี่นับจากหน้าหนังและตัวอย่างล้วนๆ เลยนะ
ค่ายหนังขึ้นต้นไว้ว่าเป็นหนังจากผู้สร้าง ‘Get Out’ และ ‘Us’ แต่ที่จริงแล้วผู้กำกับเป็น Gerard Bush และ Christopher Renz ที่ทั้งสองร่วมกันทั้งเขียนบทและกำกับ
เรื่องย่อหนัง ‘Antebellum’
คือเรื่องราวที่วนเวียนอยู่รอบตัวของ เวโรนิกา เฮนลีย์ (Janelle Monáe/จาแนลล์ โมเน่ จากหนัง ‘Moonlight’, ‘Hidden Figures’) นักเขียนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในงานเขียนของตนเอง แต่เธอไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องไปติดแหง็กอยู่ในอีกเวลาหนึ่ง
ที่นั่นห่างจากเวลาปัจจุบันเป็นไกลมาก เธอต้องไปอยู่ในนิคมเกษตรกรรมแห่งหนึ่ง ที่ควบคุมด้วยคนขาว มีกลุ่มทหาร มีไร่ฝ้าย ที่นั่นคนผิวดำถูกใช้อย่างทาส ไม่ได้อย่างใจก็ทำร้ายด้วยวิธีต่างๆ
เมื่อนักเขียนคนผิวสีที่มีชีวิตที่ดูเพอร์เฟกต์ มีสามีและมีลูกน้อยที่น่ารัก อาชีพการงานก็ดูจะไปได้สวย แล้วเหตุใดเธอจึงถูกดึงกลับไปอยู่ในโลกที่คนผิวดำยังคงเป็นทาส
ทำไม ทำไม และทำไม?
งานนี้ได้นักแสดงที่มาร่วมงานมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครเอลิซาเบธ (Jena Malone/เจน่า มาโลน จากหนัง ‘Nocturnal Animals’) และตัวละครจูเลีย (Kiersey Clemons/เคลย์ซี คลีมอนส์ จากหนัง ‘Dobe’) ที่สร้างสีสันและเรื่องราวให้พวกเราติดตาม
รีวิวหนัง ‘หลอน ย้อน โลก’
การดูตัวอย่างเพียงน้อยครั้ง อ่านข้อมูลเพียงน้อยนิด อาจเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้การรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสดใหม่อย่างที่สุด และการเขียนบทรีวิวนี้ก็อาจจะกระทบต่อประสาทการรับอรรถรสของท่านต่อหนังเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย จะเลือกรับสารหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ผู้อ่าน แต่ในมุมของผู้เขียนแล้ว
จะพยายามอย่างที่สุดที่ไม่ไปแตะสปอยล์ของภาพยนตร์เรื่องนี้
ไอเดียของการผนวกเรื่องเหยียดผิวกับคอนเซ็ปต์เวลา
หนังของคนผิวสีมักจะวนเวียนอยู่แนวความคิดของการถูกเหยียดจากคนผิวขาวอยู่ตลอดมา การค้นพบและตั้งรกรากของคนบนฝั่งแผ่นดินอเมริกา คนผิวดำกลายเป็นชนชั้นต่ำและตกเป็นเบี้ยล่างของคนผิวขาวตลอดมา แม้กระทั่งปัจจุบันที่การเหยียดผิวนั้นเจือจางลงไปบ้างแล้วแต่มันก็ยังฝังรากอยู่ และ Antebellum ก็กำลังขุดมันออกมานำเสนอให้ผู้คนได้เห็นและตระหนักถึงมัน
เรื่องราวที่เล่าอยู่บนสองเส้นเวลา ชั่วขณะหนึ่งที่เวโรนิก้ายืนอยู่ในโลกปัจจุบันของอเมริกา ชีวิตที่ดูจะเพียบพร้อม ทั้งอาชีพการงานที่รุ่งโรจน์ ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่เธอก็รู้ว่าเมื่อออกไปนอกบ้าน
เธอก็ยังคงรู้สึกไร้ซึ่งความเท่าเทียนระหว่างคนสองสีอยู่เช่นเดิม
ยิ่งเมื่อเธอเข้าไปอยู่ในโลกที่คนผิวดำยังคงเป็นทาสรับใช้ในบ้านของผิวขาว มีบ้านแยกออกไปเฉพาะสำหรับทาส ถูกกดขี่ ทำร้ายทารุณต่างๆ นานา เธอจึงได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคนผิวดำเคยถูกกระทำมามากมายและรุนแรงเพียงใด
เธอจึงได้เห็นว่า ในปัจจุบันที่ใครบอกว่ามันเจือจางมากแล้ว แท้จริงมันก็ยังคงอยู่
น่าสนใจที่เขาเลือกหาพล็อตที่เล่าเรื่องที่คุ้นเคยมาเล่าใหม่ในมุมมองและวิธีการที่แตกต่าง นำเรื่องการเหยียดผิว การกดขี่ทางชนชาติ มาเล่าโดยเพิ่มสีสันของช่วงเวลา
เมื่อหนังเล่าให้โลกปัจจุบันกับโลกอดีตที่เธอเข้าไปสัมผัสมีความเหมือนกันในบางอย่างราวกับเป็นกระจกที่สะท้อนซึ่งกันและกัน เราจะได้เห็นว่า ทั้งสองช่วงเวลานั้น มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่มีความคล้ายคลึงกันอยู่ ต่างแค่บริบทของสังคมและเวลา แต่ทั้งคู่ล้วนเป็นเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมที่ยังคงมีอยู่แม้เวลาจะแตกต่างกันมากแล้วก็ตาม
นั่นแปลว่า การกดขี่ ความไม่เท่าเทียม การเหยียดสีผิว มันยังคงอยู่ไม่ได้ไปไหน
สิ่งที่เธอคิด เธอเขียน ลงในหนังสือ ถ้อยคำที่พูด ที่เธอบรรยาย มันลอยไปถึงหลายหูในตระหนัก หากอีกหลายหูก็ยังคงทำในสิ่งเดียวกันแค่แตกต่างออกไปก็เท่านั้น
หลอกซ้ำหลอกซ้อน เหวอแล้วเหวออีก
สิ่งที่หนังแทรกใส่เข้ามา รายละเอียดและสัญลักษณ์ต่างๆ ดูมีเงื่อนงำชวนสงสัยไประหว่างทาง แม้กระนั้นคนดูก็ยังคงตกหลุมพรางที่หนังดักไว้เข้าอย่างจัง (แต่ถ้าคุณอ่านบทนี้ คุณอาจตื่นรู้แต่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ แล้วก็เป็นได้)
สามสิบนาทีแรกอาจจะเนิบนาบเชื่องช้า เล่าไปแล้วคนดูก็อาจจะสงสัยว่าไหนกันความหวือหวาที่เฝ้ารอ หนังให้เวลาช่วงนั้นเพื่อทดสอบการอดทนรอคอยของผู้คน เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อหนังเข้าสู่องก์ที่สองและองก์ที่สาม
เราจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความอึ้ง!
ความน่าสนใจก็คือ หนังอาจจะใบ้มาตลอดทาง แต่เราไม่รู้ไง องก์แรกที่ผ่านไปก็อาจจะสงสัยว่าแล้วเรื่องราวมันจะทำให้เราสนุกได้เหรอ หลังจากผ่านองก์นั้นไปแล้วเราก็ได้รู้ว่า ยังมีเรื่องราวให้ชวนติดตามอยู่ในองก์ที่เหลือ ที่จะทำให้ได้อึ้งและเหวอ เพราะไม่ทันคาดคิดนี่แหละ
และควรจะไปพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนจะพบเจอสปอยล์นะครับ
ภาพยนตร์เรื่อง: Antebellum / แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Gerard Bush, Christopher Renz
ผู้เขียนบท: Gerard Bush, Christopher Renz
นักแสดงนำ: Janelle Monáe/จาแนลล์ โมเน่, Eric Lange, Jena Malone/เจน่า มาโลน, Tongayi Chirisa, Kiersey Clemons/เคลย์ซี คลีมอนส์
ดนตรีประกอบ:
ความยาว: 105 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Horror, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/-, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 17 กันยายน 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Lionsgate, QC Entertainment
แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก
บทและพล็อต - 7.7
การแสดง - 8.5
เพลง/ดนตรีประกอบ - 8
การดำเนินเรื่อง - 7.7
งานภาพ - 7.3
7.8
Antebellum
สิ่งที่หนังแทรกใส่เข้ามา รายละเอียดและสัญลักษณ์ต่างๆ ดูมีเงื่อนงำชวนสงสัยไประหว่างทาง แม้กระนั้นคนดูก็ยังคงตกหลุมพรางที่หนังดักไว้เข้าอย่างจัง ความน่าสนใจก็คือ หนังอาจจะใบ้มาตลอดทาง แต่เราไม่รู้ไง และสุดท้ายก็คือ ควรจะไปพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนจะพบเจอสปอยล์