รีวิวหนัง Dumb Money ปั่นเงินรวยป่วนโลก | เป็นเม่า ริเอาชนะเปลวไฟ?

หนังบางเรื่อง อาจจะมีความเฉพาะกลุ่มอยู่สักหน่อย คนที่ชอบดูอาจเป็นคนกลุ่มไม่ใหญ่ไม่โตนัก แต่คนทำหนังเขาก็พยายามจะเล่ามันให้ดูเข้าถึงง่าย จนคนทั่วไป สามารถที่จะเข้าใจเรื่องได้ทัน อย่างเช่นหนังที่เล่าเรื่องตลาดทุนวอลสตรีทที่ว่าด้วยเหล่าแมลงเม่าทั้งหลายอย่าง ‘Dumb Money’ หรือชื่อไทย ‘ปั่นเงินรวยป่วนโลก’ เรื่องนี้เป็นต้น หนังที่ใช้วัตถุดิบจากหนังสือและเรื่องจริงเล่ามันให้ออกมาในแนวทางคอมเมดี้ซึ่งก็เรียกเสียงฮาได้ดีทีเดียวเลย

ความคิดเห็นส่วนตัวของนายแพท

พอล ดาโน นี่เหมาะจะเล่นเป็นคนเนิร์ดซะจริงๆ นะ นี่ก็อีกเรื่องแล้ว เมื่อมันมาอยู่ในมือ เคร็ก กิลเลสพี คนที่มีเครดิตจากการกำกับ ‘Cruella’ และ ‘I, Tonya’ เขาก็ปั่นมันอย่างสนุกมือ เล่าเรื่องที่น่าจะเข้าใจยากสำหรับคนไม่เล่นหุ้น ให้กลายเป็นหนังที่ดูสนุกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาบอกเล่ามันในทางของสงครามทางชนชั้นในตลาดหุ้น เหล่าคนตัวเล็กที่ร่วมประสานมือกันตอบโต้เฮดจ์ฟันด์ผู้ร่ำรวยเป็นพันล้านให้ต้องกุมขมับ เปลี่ยนร้านขายเกมเล็กๆ ให้กลายเป็นธุรกิจมูลค่ามหาศาล หนังที่สร้างความเดือดให้เกิดขึ้นได้แม้ไม่มีซีนบู๊

เดินเรื่องอย่างเร้าใจ แทรกใส่มุกฮาให้ขำกลิ้ง

เรื่องย่อหนัง ‘Dumb Money’

ในโลกของวอลสตรีท มีเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นเคสอันลือลั่นจนมีคนเอามาเขียนหนังสือ และวันหนึ่งมันก็กลายเป็นหนัง กระทาชาย นาย คีธ กิลล์ (Paul Dano จากหนังเรื่อง ‘The Fabelmans’ และ ‘Swiss Army Man’) เขาใช้ชื่อในรายการออนไลน์ของตนเองว่า รอว์ริ่ง คิตตี้ ชายผู้หมกมุ่นอยู่กับหุ้นตัวหนึ่ง ที่ชื่อ เกมสต็อป ที่เชื่อว่ามันจะต้องทำเงินให้เขาได้

ในรายการออนไลน์ของตนเอง เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการซื้อทั้งหมด เขาชักชวนคนมาร่วมกันซื้อ นักลงทุนรายย่อยที่เรียกว่า ‘แมลงเม่า’ ต่างเชื่อเขาและร่วมด้วยช่วยกันซื้อ ทั้งประเทศต่างอึ้งเมื่อราคาของหุ้นตัวนี้พุ่งทะยานราวกับกำลังไปดวงจันทร์ แต่ยกเว้นคนบางกลุ่ม กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ยิ่งเวลาผ่านไป พวกเขาก็ยิ่งสูญเสียเม็ดเงินไปมากมาย

รีวิวหนัง ‘ปั่นเงินรวยป่วนโลก’

จากหนังสือของ Ben Mezrich ชื่อ ‘The Antisocial Network’ กลายมาเป็นหนังสุดปั่นของคนปั่นหุ้น อันที่จริง Dumb Money เนี่ย ถ้าแปลตรงๆ มันก็คงเป็นเงินโง่ๆ แต่ความจริงมันไม่ใช่ เพราะมันหมายถึงนักลงทุนรายเล็กๆ ที่หวังรวยจากตลาดหุ้น ไม่ได้มีความรู้เรื่องหุ้นมากมายนัก แต่มักจะเฮโลตามกันไป และส่วนใหญ่ก็ขาดทุน ซึ่งรวมๆ แล้ว เขาเรียกคนกลุ่มนี้ว่า ‘เม่า’ นั่นแล

เรื่องลือลั่นที่มาจากโลกวอลสตรีทที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่องนี้ เล่าถึงหุ้นตัวของร้านขายเกมเล็กๆ ที่ชื่อ GME – GameStop (เกมสต็อป) ที่พุ่งทะยานจนใครๆ ก็อ้าปากค้าง หุ้นที่ราคาตกต่ำสุดๆ แต่กลับมีเม่ามาซื้อกันมากมาย แต่ราคาก็ยังทะยานไม่หยุด และหลายคนก็ยังคงถือเพราะเชื่อมั่นว่ามันจะขึ้นไปได้อีก

เอาจริงๆ ถ้ารู้ทันตลาด รีบขายซะก่อนจะที่มันจะดิ่งหัวลง ก็อาจแปรเปลี่ยนคนที่มูลค่าหุ้นติดลบ ให้กลายเป็นคนร่ำรวยไปในชั่วพริบตาได้เลยนะเนี่ย

ความจริงแล้ว มันคือเรื่องของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มองว่าสามารถทำเงินจากหุ้นตัวนี้ได้ เพราะคาดไว้ว่ามันกำลังจะเจ๊ง และถ้าเจ๊งจริง กองทุนนี้ก็คงจะรวยอื้อซ่า แต่พวกเขาคงไม่คาดคิดว่า เม่าทั้งหลายจะรวมใจกันขนาดนี้ หุ้นที่พวกเขาหวังสร้างกำไรงามกลับพุ่งทะยานจนกระอักเลือด เลยต้องใช้ความใหญ่ชักนำให้วอลสตรีทเอาคืน

และเอาจริงๆ ตลาดหุ้นมันก็มีเรื่องของชนชั้นอยู่เหมือนกันนะ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ เหมือนคนรวยที่สามารถใช้เงินก้อนโตและความใหญ่กำหนดทิศทางหุ้นได้ง่ายดาย ทำกำไรจากหุ้นได้มหาศาลโดยที่คนโชคร้ายคือเม่าทั้งหลายที่หวังรวยแต่กลับต้องขาดทุน และวิกฤติครั้งนี้ เป็นเหมือนการตอบโต้ของเหล่ารายย่อยที่ต้องการสั่งสอนขาใหญ่พวกนั้น

ในหนังมันมีนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนด้วยกันนะ นอกจาก Paul Dano ที่เล่นเป็นคีธ กิลล์ คนตัวเล็กๆ ที่ชักชวนคนมาร่วมกันซื้อหุ้นเกมสต็อปจนมันทะยานไม่หยุดแล้ว ก็ยังมี Shailene Woodley (จากหนังเรื่อง ‘The Descendants’) เล่นเป็นแคโรไลน์ ภรรยาสาวสวยที่เอาใจช่วยสามีทุกทาง มีพี่น้อง มี Seth Rogen (จากหนังเรื่อง ‘Long Shot’) ที่เล่นเป็นผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ มี Sebastian Stan (จากหนังเรื่อง ‘Endings, Beginnings’) เล่นเป็นเจ้าของโรบินฮู้ดแอปเทรดหุ้น และก็มี Amercica Ferrera (จากหนังเรื่อง ‘Barbie’) มาเล่นเป็นพยาบาลสาวที่หวังจะรวยจากการซื้อหุ้นเกมสต็อป

มันเป็นหนังที่คนเล่นหุ้นมาบ้าง น่าจะพอเข้าใจเรื่องได้ ส่วนคนที่ไม่เคยแตะเรื่องเล่นหุ้นเลยหรือรู้จักเพียงผิวเผิน ก็อาจจะสับสนไปกับศัพท์เฉพาะอยู่บ้าง แต่น่าจะสนุกไปกับการเล่าเรื่องได้ เพราะมันก็มีมุกฮาๆ แทรกอยู่เป็นระยะ ประกอบกับเพลงประกอบก็ชวนขยับแข้งขยับขาตามไปตลอดเรื่อง ขณะคนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดก็คือคอหุ้นตัวจริง คงเข้าใจหนังได้อย่างเต็มเปี่ยม

Taglines: Dear Wall Street…

หนังใช้วิธีการเล่าที่สุดปั่นผสมไปกับทั้งการใช้เพลงประกอบที่เร้าหัวใจ สลับไปกับเรื่องราว แทรกมุกฮากลิ้งตลอดเรื่อง ก่อนจะสรุปด้วยผลพวงของปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของตลาดหุ้น บางส่วนต้องใช้ความเข้าใจตลาดหุ้น แต่บางส่วนก็ไม่จำเป็นต้องรู้ก็เข้าใจเรื่องได้

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง