บางครั้งบางหน เรื่องราวที่น่าเล่ามันก็อยู่ใกล้ตัวมากแต่เรากลับไม่รู้ เหตุบางเหตุมันเกิดขึ้นในประเทศไทยแต่เพราะมันเกิดขึ้นมาก่อนที่เราจะเกิด มันก็เลยทำให้เราไม่ทันได้รู้จนได้มาเจอในซีรีส์ที่มีคนสร้างขึ้น ‘The Serpent นักฆ่าอสรพิษ’ คือหนึ่งตัวอย่างนั้น เหตุอาชญากรรมที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก เหตุเกิดขึ้นหลากหลายประเทศแต่จุดหลักใหญ่มันเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเรานี่เอง
แต่เหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจและวัตถุดิบชั้นดีในการสร้างลิมิเต็ดซีรีส์ขึ้นมาสักเรื่องหนึ่ง โดยที่ผู้สร้างก็เลือกที่จะไม่ระบุด้วยชื่อจริง แถมยังเขียนบทสนทนาขึ้นมาใหม่ มโนให้เต็มที่เพื่ออรรถรสในการรับชม ซีรีส์ที่อาจจะมีเนื้อหาค่อนข้างผู้ใหญ่อยู่สักหน่อย นอกเหนือจากการฆ่ากันที่อยู่ในนั้นแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะการค้ายาเสพติดด้วยแหละ
เอาเป็นว่า เรามาเริ่มทำความรู้จักกับซีรีส์แปดตอนเรื่องนี้กันเลยจะดีกว่า
เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Serpent’
มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับตัวละครมากมายในลิมิเต็ดซีรีส์ความยาว 8 ตอนที่มีจุดศูนย์กลางที่ชายหญิงคู่หนึ่ง
หนึ่งคือชายผู้เป็นลูกครึ่งจีน-เวียดนาม ที่เขาบอกใครๆ ว่าตนคือ อาแลง กอติเยร์ แต่ที่จริงเขาชื่อชาร์ลส์ โสภราช (Tahar Rahim จากหนังเรื่อง ‘The Mauritanian’) ที่ได้คบและพบรักกับ มารี-อังเดร หรือที่เธอบอกใครๆ ว่าชื่อ โมนิค (Jenna Coleman) หญิงสวยเชื้อสายแคนาเดียน ทั้งสองเป็นคู่รักที่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ช่วงปี 1975 ด้วยฉากหน้าของการเป็นนักค้าอัญมณี
แต่ฉากหลังคือฆาตกรและผู้ค้ายาเสพติด
อาแลง ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนสักเท่าไหร่ มีความเชี่ยวชาญในด้านการหลอกลวง ฉลาดเป็นกรด เอาตัวรอดเป็นเยี่ยม แต่การที่เขาจะทำทุกสิ่งได้มากขนาดนี้ เขามีผู้รับใช้ที่ดีอย่าง อาเจย์ (Amesh Edireweera) หนุ่มอินเดียที่มองว่าตัวเองคือเพื่อน
เกิดฆาตกรรมขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และก็ไม่ใช่จะเกิดเฉพาะแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะก่อนหน้าก็เคยเกิดขึ้นที่อื่นมาแล้ว แต่การมาก่อคดีในแดนสวรรค์ครั้งนี้ เขาถูกจับตาโดยบุคคลที่ไม่มีใครคาดคิด เฮอร์แมน คนิปเปอร์เบิร์ก (Billy Howle จากหนังเรื่อง ‘Dunkirk’ และ ‘Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker’) เลขานุการตรีในสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรตรงนี้เลย แต่เขากลับกัดไม่ปล่อย สืบเอาจนรู้และมีหลักฐานมากพอจะมัดตัว
น่าสนใจดีช่ายมะว่า สุดท้ายแล้ว นักฆ่าอสรพิษคนนี้จะลงเอยเช่นไร
รีวิวซีรีส์ ‘นักฆ่าอสรพิษ’
เริ่มต้นดูเพราะได้ยินคำชมประกอบกับมันขึ้นมาในหน้าจอ กับเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่า ในช่วงเวลานั้น ยุค 70’s ที่เรายังไม่ได้ถือกำเนิด ประเทศของเราจะมีเรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้น แม้ชื่อจริงของพวกเขาจะถูกกลบทับด้วยชื่ออื่น แต่ตัวเอกของซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นวายร้ายที่เรียกได้ว่าเก่งไม่เบา มีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและควรค่าแก่การหยิบมาเล่า รายละเอียดในนั้นมันมากมายเหลือเกิน
ย้อนสู่ภาพของกรุงเทพฯ ในวันเก่า
เมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นจริงในอดีต มันก็จำเป็นต้องเล่าเรื่องโดยให้ทุกอย่างมันออกมาใกล้เคียงสภาพบ้านเมืองในยุคนั้นให้มากที่สุด ทีมงานเลือกมาถ่ายในเมืองไทย พยายามรีเสิร์ชหาสถานที่ที่ยังมีความเก่า พยายามหาฟุตเทจมาประกอบเพื่อให้ออกมาดูใกล้เคียงที่สุด บางจุดก็ต้องออกไปนอกตัวเมืองหลวงเพื่อหาบ้านเก่ามาตกแต่งเพิ่มเติมให้ใกล้กันกับภาพและข้อมูลที่มี เรียกได้ว่า เขาพยายามเต็มที่ที่จะสร้างกรุงเทพฯ ในมุมมองของคนต่างชาติ
นอกจากเรื่องสถานที่ ก็ยังมีองค์ประกอบข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นรถรา สิ่งของ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เพลงประกอบ ไลฟ์สไตล์ของคนกรุงในยุคนั้น (แน่นอนว่าไม่ทิ้งเรื่องที่เที่ยวโลกียๆ และยาเสพติดอย่างแน่นอน) นับว่า พวกเขาทำการบ้านมาอย่างดี
หลายจุดดูใกล้เคียง แต่หลายจุดก็ยังดูแหม่งๆ ดูไม่สมจริงนัก คงเพราะด้วยเหตุที่เราเป็นคนไทยจึงมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายนั่นเอง
แต่ก็ไม่ใ่ช่แค่นั้นนะ ยังมีเมืองอื่นๆ อีกด้วย เพราะฆาตกรรายนี้ไปมาหลายประเทศ ทั้งเนปาล อินเดีย ปากีสถาน และฝรั่งเศส ทีมงานก็เลยต้องเนรมิตภาพฉากหลังของเมืองต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับอดีต พวกเขาทำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวแหละ
มีนักแสดงไทยและทีมงานคนไทยร่วมอยู่ด้วยเยอะเหมือนกันนะ
ถ้าลองสังเกตในช่วงท้ายของแต่ละตอนจะมีขึ้นรายชื่อของนักแสดงและทีมงานบอก หรือถ้าไปดูเครดิตของพวกเขาใน iMDB ก็จะพบว่า มีคนไทยมากพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ชิชา อมาตยกุล/Chicha Amatayakul ที่เล่นหนังมาหลายเรื่อง ทั้ง เน็ต ไอ ดาย, จอมขมังเวทย์ 2020 และซีรีส์ เด็กใหม่ ในเรื่องนี้ เธอเล่นเป็นสุดา หญิงสาวลูกของร่มเย็น (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ/Surasak Chaiyaat จากหนังเรื่อง พันธุ์หมาบ้า) นายตำรวจที่ชาร์ลส์เข้ามาพัวพันด้วย
คนต่อมาก็คือ สหจักร บุญธนกิจ/Sahajak Boonthanakit นักแสดงเชื้อไทยที่เกิดในอเมริกา มีชื่อเสียงมากพอสมควร เล่นหนังมาหลายเรื่อง รวมทั้ง ‘The Beach’, ‘Only God Forgives’, ‘แสงกระสือ’ ในเรื่องนี้เขาได้เล่นเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนคดี
นอกจาก Apasiri Kulthanan หญิงสาวที่สวมบทบาทเป็น ลาวาณา ผู้ช่วยของคนิปเปนเบิร์ก เธอก็มีบทในเรื่องอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล/Theerapat Sajakul รับบทนายตำรวจสากลสุดหล่อ แล้ว ก็ยังมี Chotika Sintuboonkul, Teeradech Tisanuruk และอีกหลายคน รวมทั้งทีมงานด้วย
เริ่มเรื่องอาจไม่เท่าไหร่ แต่ดูๆ ไปกลับยิ่งสนุก
ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้เล่าอย่างตรงไปตรงมาตามเส้นเวลา แต่สองตอนแรก เขาเลือกจะเล่าเรื่องเหตุฆาตกรรมหลายรายที่เกิดขึ้นในไทยด้วยวิธีการสลับไทม์ไลน์ไปมา ภาพที่เคยเห็นแล้วก็อาจถูกวนซ้ำมาเล่าใหม่ได้อีกครั้ง ดูๆ ไปก็อาจมีมึนได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขามีข้อมูลละเอียดมากและพยายามอย่างยิ่งที่จะเล่าจนอัดแน่นเพื่อแนะนำให้คนดูได้รู้จักกับฆาตกรรายนี้ให้เร็วที่สุด จนกลายเป็นเวลาที่ผู้ชมต้องใช้สมองและสมาธิในการติดตามเรื่องราว ผสมกับกับการได้เห็นบ้านเมืองกรุงเทพฯ ในวันเก่าที่ดูปลอมๆ นิดๆ ก็อาจจะชวนให้จิตหลุดออกจากไทม์ไลน์ไปบ้าง ต้องคอยประคองตัวเองให้เข้ามาในเรื่องราว
แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ไป ซีรีส์จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการสืบคดีและความพลิกผันที่ชวนลุ้นสุดตัว
เหตุที่เกิดกับคู่รักชาวดัตช์ที่ถูกฆาตกรรมอย่างมีเงื่อนงำ กระตุกให้คนิปเปนเบิร์ก เจ้าหน้าที่สถานฑูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยรู้สึกไม่อาจอยู่เฉย เขาเอาเรื่องไปติดต่อกับตำรวจ ก็กลับได้คำตอบว่า ‘ทีมงานไม่พอ’ ในที่สุด ก็เหมือนจะยินยอมให้สืบเองได้ คนิปเปนเบิร์กจึงลงทุนเกาะติดสืบสาวข้อมูลอย่างไม่ยอมวางมือ ทั้งยังได้แรงเกื้อหนุนผลักดันจากคนรักอย่าง แองเจล่า (Ellie Bamber เธอมีผลงานอยู่ในหนังหลายเรื่อง อย่างเช่น ‘The Nutcracker and the Four Realms’, ‘Nocturnal Animals’ และ ‘Pride and Prejudice and Zombies’) อีกต่างหาก ช่วงนี้คนดูจะลุ้นกันพอสมควรเลยว่า จะเอาผิดกับคนที่เก่งปลิ้นปล้อนและมีจิตใจโหดร้ายฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นอย่าง ชาร์ลส์ โสภราช หรือ อาแลง กอติเยร์ คนนี้ได้มั้ย
ในระหว่างทาง เขาก็จะตัดต่อให้เราได้เห็นที่มาที่ไปหลายสิ่งที่ประกอบกันจนเป็นเรื่องราวทั้งมวลของ ฆาตกรที่หลอกลวงต้มตุ๋นและคร่าชีวิตผู้คน เพื่อความอยู่รอดและยิ่งใหญ่ที่เขาคิดเอาเอง เขามีคนที่อยู่ข้างกาย เขารู้จักกับมารีและอาเจย์ได้ยังไง เหตุใดมารีจึงเลือกจะอยู่ข้างกายทั้งที่รู้ว่าเขาเลว ทั้งเรื่องราวยังพาลึกเข้าไปถึงอดีตคนรักของชาร์ลส รวมทั้งครอบครัวของเขาอีก
น่าเสียดายอยู่บ้าง ที่ช่วงตรงกลางกำลังสนุกอยู่ดีๆ มาแผ่วปลายในช่วงท้ายๆ เสียได้
นับวัน คนิปเปนเบิร์กก็จะดูยิ่งหมกมุ่นมากขึ้นทุกที ขณะที่วายร้ายชาร์ลสก็ดูยังไม่มีทีท่าจะลดราวาศอก ยังคงก่อเรื่องราวต่อไปได้เรื่อยๆ เรื่องราวเริ่มจะไม่มีอะไรน่าสนุกชวนลุ้นชวนติดตามได้เหมือนก่อนหน้า แต่คนดูอย่างเราๆ ก็ยังคงต้องตามต่อเพื่อจะได้เห็นบทลงเอยของพวกเขาอยู่ดี
ชื่อซีรีส์: The Serpent / นักฆ่าอสรพิษ
ผู้กำกับการแสดง: Hans Herbots, Tom Shankland
ผู้เขียนบท: Richard Warlow, Toby Finlay
นักแสดง: Tahar Rahim, Billy Howle, Jenna Coleman, Ellie Bamber, Mathilde Warnier, Grégoire Isvarine, Tim McInnerny, Amesh Edireweera, Apasiri Kulthanan, โชติกา สินธุบุญกุล
แนว/ประเภท: Crime, Drama, Thriller
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 8 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: BBC One, Living Films, Mammoth Screen
นักฆ่าอสรพิษ
พล็อตและบท - 7.9
การแสดง - 7.6
เพลง/ดนตรีประกอบ - 8.1
งานภาพ/โปรดักชั่น - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 7.8
7.9
The Serpent
เรื่องราวของนักฆ่าที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เช่าอะพาร์ตเมนต์เพื่อฆ่าแล้วยึดเอาทรัพย์และตัวตนมาใช้อย่างเลือดเย็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุค 70's ที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าจะมีคนชั่วร้ายระดับนี้มาสร้างเรื่องในประเทศไทย ซีรีส์ 8 ตอนที่เริ่มต้นด้วยเหตุเลวร้ายในพัตน์พงษ์ เล่าเรื่องสลับเวลาที่ชวนเวียนหัว ก่อนจะได้เวลาลุ้นสุดตัวเมื่อพวกเขาถูกสืบสาวและติดตามไล่จับ ช่วงท้ายอาจจะเนือยๆ หน่อย แต่ก็ต้องติดตามให้มันจบ อีกซีรีส์ที่ทำได้ไม่เลว