คนบันเทิง

ส่องผลงาน ยอจินกู (Yeo Jin Goo) พระเอกหนุ่มที่ทุกคนต้องตกหลุมรัก

หนุ่มคนนี้ ฉายแววความสามารถมาตั้งแต่ยังเป็นนักแสดงเด็ก จนต้องไล่เรียงกันยาวเลยล่ะ

ยอมรับเลยว่าตัวเองยังติดตามผลงานของ ยอจินกู (Yeo Jin Goo) มาได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ได้รู้จักและนั่งดูผลงานของเขาในช่วงหลังๆ ทั้งที่แท้จริงแล้ว เขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความเป็นนักแสดงที่มากฝีมือ มีผลงานมาแล้วมากมายทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมไปถึงมิวสิควิดีโอ แถมยังมีรางวัลมากมายที่การันตีความสามารถด้านการแสดงอีก มันคงถึงเวลาที่นายแพทจะต้องหยิบประวัติและผลงานของเขามาเขียนถึงกันสักที

เริ่มกันด้วยประวัติแบบเบาๆ ของพระเอกหนุ่มคนนี้เลยเนอะ


บทความนี้มีอะไรบ้าง? ซ่อน

ประวัติย่นย่อของ Yeo Jin Goo

ยอจินกู 13 สิงหาคม 1997 (พ.ศ. 2540) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีน้องชาย 1 คน ในส่วนของความหมายชื่อนั้น จิน แปลว่า สมบัติ ส่วน กู แปลว่า เก้า จินกู จึงมีความหมายว่า ‘สมบัติเก้าอย่าง’ ตอนนี้ เขากำลังศึกษาด้าน Department of Theatre and film อยู่ที่มหาวิทยาลัยจุงอัง (Chung-Ang University)

ในด้านการแสดงนั้น ตอนที่จินกูอายุได้ 8 ขวบ เขาเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักแสดงเด็กด้วยการรับบทเป็น พักฮวีชัง ในผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ‘Sad Movie’ เมื่อปี 2005 ต่อมา เขาก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นกับการได้มีผลงานในฐานะนักแสดงเด็ก ในซีรีส์อย่าง ‘Giant’ ในปี 2011, ‘Moon Embracing the Sun’ และ ‘Missing You’ ในปี 2012 ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมาย ก็เพราะฝีมือการแสดงที่เก่งเกินเด็กของเขานี่แหละ และเมื่อเขาเติบโตขึ้นมา เขาก็ยังได้รับบทพระเอกตอนวัยรุ่นใน ‘Missing You’ และในที่สุดเขาก็ได้รับบทพระเอกเต็มตัวในซีรีส์เรื่อง ‘Orange Marmalade’ ก่อนที่เขาจะได้เล่นหนัง ‘Hwayi: A Monster Boy‘ ในปี 2013 ที่ทำให้เขาได้รับรางวัล The 34th Blue Dragon Awards

[MV] Baek Ji Young(백지영) _ Still in Love(여전히 뜨겁게)

ส่วนงานเล่นมิวสิควิดีโอนั้น จินกูก็มีเช่นกันนะ เขาเคยแสดงในเอ็มวี Still in love ของศิลปินสาว Baek Ji Young ที่ออกมาในปี 2014 และ 니가필요해 (I need you) ของ 케이윌(K.will) ในปี 2012 นอกจากนี้ก็ยังได้เป็น MC ของรายการเรียลลิตี้โชว์เฟ้นหาเกิร์ลกรุ๊ป 3 สัญชาติอย่าง Girls Planet 999 ด้วย

ถือว่าเป็นหนุ่มที่มีความสามารถหลายอย่าง ทำให้มีงานที่หลากหลายนั่นเอง


ผลงานซีรีส์เด่นๆ ของ ยอจินกู

ด้วยความที่เข้าสู่แวดวงการแสดงมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก เขาจึงมีผลงานซีรีส์มากมายเกินกว่าจะไล่เรียงเขียนเต็มๆ ได้หมอ ขอหยิบเอาบางเรื่องที่น่าเขียนถึงมารวมไว้ในส่วนนี้ก็แล้วกัน เอ้า…เริ่ม!

เรื่อง Moon Embracing the Sun / ลิขิตรักตะวันและจันทรา / ปี 2012

ยอจินกู ในซีรีส์เรื่อง ลิขิตรักตะวันและจันทรา
ยอจินกู ในซีรีส์เรื่อง ‘ลิขิตรักตะวันและจันทรา’

มันคือซีรีส์ย้อนยุคแนวโรแมนติกที่เล่าเรื่องราวขององค์รัชทายาท อีฮวอน (ที่รับบทโดย คิมซูฮยอน) ผู้ได้พบเจอกับหญิงสามัญชน ยอนอู (รับบทโดย ฮันกาอิน) และตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ก่อนจะมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อความฉลาดเฉลียวของยอนอูทำให้นางได้เข้ามาในวัง แต่โชคชะตาก็พาให้ทั้งสองพลัดพรากจากกัน และเพราะโชคชะตานั้นที่พัดพาให้ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกคราผ่านอุปสรรคต่างๆ นานาที่เป็นบททดสอบความรักของคนสองคน

และก็แน่นอน ยอจินกู คือคนที่ได้รับบทของ อีฮวอน ในวัยเด็ก เขาได้รับเสียงชื่นชมในฝีมืออย่างหนาหู และเขาก็ได้รับรางวัลจากการแสดงซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

รางวัลที่ได้รับจากซีรีส์ Moon Embracing the Sun

  • รางวัล Best Child Actor (นักแสดงเด็กชายยอดเยี่ยม) จากเวทีประกาศรางวัล 2012 MBC Drama Awards

เรื่อง Orange Marmalade / เขี้ยวรักสีส้ม / ปี 2015

Yeo Jin Goo ในซีรีส์เรื่อง Orange Marmalade
Yeo Jin Goo ในซีรีส์เรื่อง ‘Orange Marmalade’
credit: KorSeries

ในซีรีส์เรื่อง ‘Orange Marmalade’ ยอจินกู รับบทเป็น จองจีมิน ที่เก่งรอบด้าน เป็นนักเรียนตัวอย่าง เป็นหัวหน้าห้อง หน้าตาดี ฉลาด แถมยังเป็นหัวหน้าวงพ่วงตำแหน่งมือกีตาร์ของวง Orange Marmalade อีกด้วย การมารับเรื่องนี้ทำให้ยอจินกูที่เคยเรียนรู้การเล่นกีตาร์มาบ้างจากการดูอินเตอร์เน็ต ต้องหันมาเรียนรู้อย่างจริงจังจากอาจารย์ และความจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้เล่นเป็นแค่กีตาร์ เขาก็ยังเล่นเปียโนเป็นอีกด้วยนะครับ

รางวัลที่ได้รับจากซีรีส์ Orange Marmalade

  • รางวัล Best New Actor จากเวที 2015 KBS Drama Awards

เรื่อง The Royal Gambler / เดิมพันบัลลังก์เดือด / ปี 2016

เดิมพันบัลลังก์เดือด ซีรีส์ผลงานของ Yeo Jin Goo ในปี 2016
‘เดิมพันบัลลังก์เดือด’ ซีรีส์ผลงานของ Yeo Jin Goo ในปี 2016

เรื่องนี้ก็เป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุคอีกเช่นกัน เล่าเรื่องราวของพี่น้องที่ชะตาขีดเส้นให้พวกเขามาเจอกันโดยไม่รู้ว่าต่างก็เป็นพี่น้องกัน แพคแทกิล (รับบทโดย จางกึนซอก) ลูกของพระสนมกับสามีคนก่อนที่เป็นนักพนัน เขาคือนักพนันที่เก่งสุดในยุคโชซอนผู้กักเก็บความคั่งแค้นไว้ภายใน กับ องค์ชายยอนอิง (ซึ่งก็คือ จินกู นั่นแล) บุตรของพระสนมกับพระราชาผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ยองโจ เขามีบุคลิกฉลาดและเย่อหยิ่ง ทั้งสองคนต้องมาเจอกันโดยมีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน

รางวัลที่ได้รับจากซีรีส์ The Royal Gambler

  • รางวัล Excellent Actor (long-length drama) จากเวที 2016 SBS Drama Awards

เรื่อง Into the World Again / อดีตรักพัดหวน / ปี 2017

จินกู ในซีรีส์เรื่อง อดีตรักพัดหวน
จินกู ในซีรีส์เรื่อง ‘อดีตรักพัดหวน’

ซีรีส์เรื่องนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘Reunited Worlds’ บอกเล่าเรื่องของชายที่เคยตายไปแล้วเมื่อ 12 ปีก่อน แต่จู่ๆ เขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในรูปลักษณ์เดิมเหมือนตอนที่ตายไป ยอจินกู ก็คือตัวเอกของเรื่องที่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายผู้มีพี่น้อง 5 คน ผู้ที่ได้รู้ว่าหลังการตายของตน พี่น้องล้วนแยกย้ายและมีชีวิตอย่างยากลำบาก อีกทั้งการกลับมาบนโลกนี้มีเวลาจำกัดและต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด เรื่องนี้จินกูได้เล่นร่วมกับ อียอนฮี ที่เล่นเป็นเพื่อนวัยเรียนที่เขาเคยหลงรัก


เรื่อง The Crowned Clown / สลับร่าง ล้างบัลลังก์ / ปี 2019

ยอจินกู ในซีรีส์เรื่อง สลับร่าง ล้างบัลลังก์
ยอจินกู ในซีรีส์เรื่อง ‘สลับร่าง ล้างบัลลังก์’

ซีรีส์เรตติ้งสูงที่ Yeo Jin Goo ได้เล่นในปีนี้ ก็คือ ‘The Crowned Clown’ ครั้งนี้เป็นซีรีส์แนวย้อนยุคที่ฉายทางช่อง tvN เล่าเรื่องราวของพระราชาที่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ได้ไม่นานทว่าคร่าชีวิตผู้คนไปมาก จึงพยายามจะหาตัวแทนมารับเคราะห์เผื่อถูกปองร้าย และก็ได้เจอหนุ่มที่เล่นละครตลกล้อเลียนพระราชาแถมยังหน้าเหมือนพระราชาเป็นที่สุด ราชเลขาจึงร่วมกับขันทีโจจัดแจงเตี๊ยมทุกอย่างให้แสดงเหมือนพระราชาองค์จริง แต่อดีตหนุ่มละครล้อเลียนนี้ดันมีเหตุบางอย่างให้เกิดความคับแค้น การปลอมตัวเป็นพระราชาจึงเป็นหนทางบดขยี้ศัตรูให้จมดิน

งานนี้ จินกูจึงต้องสวมบทบาทเป็น 2 คาแรกเตอร์ที่มีบุคลิกแตกต่างกัน แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่เขาก็แสดงมันออกมาได้ดี ความตีบทแตกทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับทั้งเรตติ้งสูง พร้อมๆ กับได้รับการยอมรับในฝีมือ แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ ภาพวาดขันทีโจที่พระราชาตัวปลอมวาดให้เป็นของขวัญกับขันทีโจนั้น เป็นฝีมือของยอจินกูเอง


เรื่อง My Absolute Boyfriend / รักผมได้ไหม คุณแฟน? / ปี 2019

Yeo Jin Goo ในซีรีส์เรื่อง รักผมได้ไหม คุณแฟน?
Yeo Jin Goo ในซีรีส์เรื่อง ‘รักผมได้ไหม คุณแฟน?’

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้แฟนตาซี ‘My Absolute Boyfriend’ หนนี้ จินกูรับบทบาทคู่กับ พังมินอา ที่เล่นเป็น ออมดาดา เมกอัพอาร์ทิสต์คนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก เธอได้พบกับยองกู หุ่นยนต์ซีโร่-ไนน์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นแฟนหนุ่มในอุดมคดิ เป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับการโปรแกรมมาให้เป็นแฟนหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบ หลังเผลอไปเปิดสวิตช์ ทำให้เธอกลายเป็นแฟนของหุ่นยนต์ไปโดยปริยาย แต่ก็ไม่พ้นต้องเจอกับวังวนรักสามเส้ากับเพื่อนสนิทของตัวเอง ใครได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ คงจะได้เห็นออร่าที่ฟุ้งกระจายของยอจินกูจนอยากจะเป็นแฟนสาวของเขาเป็นแถบแน่ๆ เลย

แท้จริง ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ เป็นเวอร์ชันรีเมกของซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง ‘Absolute Boyfriend’ ที่สร้างไว้ในปี 2008 ซึ่งนำแสดงโดย นำแสดงโดย โมโคมิจิ ฮายามิ และซากิ ไอบุ ซึ่งก็สร้างจากการ์ตูนเรื่องเดียวกัน อีกข้อหนึ่งคือ มันเคยถูกสร้างเป็นเวอร์ชันไต้หวันแล้วในปี 2012


เรื่อง Hotel Del Luna / รอรักโรงแรมพันปี / ปี 2019

Yeo Jin Goo ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Hotel del Luna
Yeo Jin Goo ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง ‘Hotel del Luna’

จะเห็นว่าเพียงปีเดียว Yeo Jin Goo รับเล่นซีรีส์ถึง 3 เรื่องด้วยกัน แถมต่างแนวกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับเรื่องนี้ ‘Hotel del Luna’ เป็นแนวแฟนตาซีลึกลับ ‘รอรักโรงแรมพันปี’ เล่าเรื่องของ กูซานซอง ชายหนุ่มที่ต้องไปทำงานอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่นี่รับเฉพาะลูกค้าที่เป็นผี เขาคือคนที่เหมาะกับที่นี่เพราะเขามองเห็นผีได้ แม้จะกลัวผีอยู่พอสมควรก็ตาม และเขาก็ต้องไปเจอกับเจ้าของอย่าง จางมัลวอน (ซึ่งก็คือ ไอยู นั่นแหละ) หญิงสาวแสนสวยผู้ที่มีชีวิตอยู่มาพันปี และไม่อาจเดินทางไปภพหน้าจนกว่าจะทำภารกิจนั้นให้เสร็จสิ้น

ด้วยความน่าติดตาม บวกกับเคมีของนักแสดงทั้งคู่ กลายเป็นอีกเรื่องที่ได้กระแสตอบรับอย่างดี มีผู้ชมติดกันงอมแงม ใครได้ดูก็คงจะเห็นในเรื่องนี้ IU สวยงามมากแค่ไหน และเมื่อซีรีส์ได้รับเรตติ้งปังๆ ก็ยิ่งทำให้จินกูเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปด้วย


เรื่อง Start-Up / สตาร์ทอัพ / ปี 2020

‘สตาร์ทอัพ’ เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องการแข่งขันของธุรกิจเกิดใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านไอทีนี่แหละ แล้วก็จะมีบริษัทพี่เลี้ยงที่ให้เงินสนับสนุน เรื่องราวของ ซอดัลมี (รับบทโดย ซูจี) ลูกจ้างชั่วคราวที่ฝันจะมีธุรกิจของตนเอง เธอได้พบกับ นัมโดซาน (รับบทโดย นัมจูฮยอก) ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพที่ดูไร้อนาคต จากนั้นทั้งสองก็ได้ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจใหม่โดยมี ฮันจีพยอง (รับบทโดย คิมซอนโฮ) คอยเป็นพี่เลี้ยง

ตอนที่ซีรีส์ออนแอร์ แฟนๆ ของจินกูล้วนจดจำได้ว่าเขาคือเจ้าของเสียง ยองซิล อุปกรณ์เอไอของหนึ่งในธุรกิจที่ฮันจีพยองพิจารณาเข้าไปลงทุน เหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้เขาได้เข้ามามีส่วนร่วมในซีรีส์เรื่องนี้ ก็เพราะมีผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง ‘Hotel del Luna’ คือ โอชุงฮวาน นั่นเอง นอกจากนี้ เขาก็ยังได้บทรับเชิญเป็น ฮงจีซอก คนที่ได้คุยเรื่องแผนธุรกิจกับฮันจีพยองในตอนที่ 16 อีกด้วยนะ

‘Start-up’ ฉากที่มี ยอจินกู ร่วมเล่นด้วย

เรื่อง Beyond Evil / ปมปีศาจ / ปี 2021

Beyond Evil ปมปีศาจ ซีรีส์แนวสืบสวนบวกจิตวิทยา
‘Beyond Evil ปมปีศาจ’ ซีรีส์แนวทริลเลอร์

ถึงเวลาที่จินกูจะได้เล่นบทในซีรีส์แนวทริลเลอร์กันบ้างแล้ว ซีรีส์เรื่อง ‘ปมปีศาจ’ เล่าเรื่องของ อีดงชิก (รับบทโดย ชินฮาคยอน) นักสืบผู้เก่งกาจด้านกฏหมาย ประจำการอยู่ในสถานีตำรวจเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีคดีให้ทำ จนวันหนึ่ง ฮันจูวอนตำรวจสายสืบที่สมบูรณ์ไปเสียทุกอย่างก็ย้ายเข้ามาประจำที่นี่เพื่อสืบหาความจริงบางอย่างที่ถูกปิดซ่อนไว้มายาวนานถึง 20 ปี

ครั้งนี้ ยอจินกูได้รับบทนำร่วมกับนักแสดงรุ่นใหญ่ แถมตัวซีรีส์เองก็คว้า 3 รางวัลจากเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 57 เลยล่ะครับ


เรื่อง Link: Eat, Love, Kill / ปี 2022

ซีรีส์เกาหลีเรื่อง Link: Eat, Love, Kill ที่ยอจินกูได้เล่นคู่กับมุนกาวอน
ซีรีส์เกาหลีเรื่อง ‘Link: Eat, Love, Kill’ ที่ยอจินกูได้เล่นคู่กับมุนกาวอน

เรื่องนี้ จินกู กลายเป็นเชฟชื่อดังที่มีจิตใจเชื่อมโยงกับนางเอกที่รับบทโดย มุนกายอง ซีรีส์เรื่องนี้มีส่วนผสมที่หลากหลาย นอกจากจะเป็นซีรีส์ทำอาหารแล้ว ก็ยังเป็นซีรีส์แฟนตาซีเพราะพระเอกมีจิตเชื่อมโยงด้านอารมณ์กับนางเอกที่เขาเองก็เคยเป็นแบบนี้กับน้องสาวที่หายตัวไป หลังเขาย้ายมาทำร้านอาหารในท้องที่เก่าที่เขาอยู่สมัยเด็ก ก็ได้พบกับนางเอกผู้เป็นลูกสาวร้านหม้อไฟที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านของพระเอก แถมยังมีเรื่องฆาตกรรมเกิดขึ้นในร้านของนางเอก แถมพลั้งมือฆ่า เลยจัดการเอาศพไปไว้ในตู้เย็นที่คิดว่าทิ้งแล้ว แต่ที่จริงมันเป็นของพระเอกอีก


รายชื่อผลงานซีรีส์ทั้งหมดของ ยอจินกู

ผลงานซีรีส์ที่จินกูได้แสดงนั้นมีมากมายครับ ด้วยเหตุเพราะเขาเข้าวงการนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เลยก็ทำให้งานในช่วงแรกนั้น เขามักจะได้รับบทเป็นตัวเอกสมัยเด็ก ต่อมาโตขึ้นหน่อยก็กลายเป็นคนรับบทพระเอกสมัยวัยรุ่น จนในที่สุดก็กลายเป็นพระเอกเต็มตัว ซึ่งจะมีเรื่องไหนบ้าง ไล่ดูตามนี้กันได้เลย

  • ‘Want to Love Again’ (SBS / 2006)
  • ‘Yeon Gae So Mun’ (SBS / 2006-2007)
  • ‘Queen of the Game’  (SBS / 2006-2007)
  • ‘Il Ji-Mae: The Phantom Thief’ (SBS / 2008)
  • ‘Tazza’ (SBS / 2008)
  • ‘Can Anyone Love’  (SBS / 2009)
  • ‘Princess Ja-Myung’ ชื่อไทย ‘จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน’ (SBS / 2009)
  • ‘Swallow the Sun’ (SBS / 2009)
  • ‘The Reputable Family’ ชื่อไทย ‘ตระกูลยอดคุณธรรม’ (KBS / 2010)
  • ‘Giant’ ชื่อไทย ‘ศึกสงครามชีวิต’ (SBS / 2010)
  • ‘Warrior Baek Dong Soo’ ชื่อไทย ‘จอมดาบคู่บัลลังก์’ หรือ ‘นักสู้คู่บัลลังก์’ (SBS / 2011)
  • ‘Tree With Deep Roots’ (SBS / 2011)
  • ‘The Moon Embracing The Sun’ ชื่อไทย ‘ลิขิตรักตะวันและจันทรา’ (MBC / 2012)
  • ‘I Miss You’ หรือ ‘Missing You’ ชื่อไทย ‘รักสุดใจ’ (MBC / 2012-2013)
  • ‘Potato Star 2013QR3’ (tvN / 2013-2014)
  • ‘Orange Marmalade’  ชื่อไทย ‘เขี้ยวรักสีส้ม’ (KBS2 / 2015)
  • ‘The Royal Gambler’  ชื่อไทย ‘เดิมพันบัลลังก์เดือด’ (SBS / 2016)
  • ‘Circle: Two Worlds’ Connected (tvN / 2017) 
  • ‘Into the World Again’ หรือ ‘Reunited Worlds’ ชื่อไทย ‘อดีตรักพัดหวน’ (SBS / 2017)
  • ‘The Crowned Clown’ ชื่อไทย ‘สลับร่าง ล้างบัลลังก์’ (tvN / 2019)
  • ‘My Absolute Boyfriend’ ชื่อไทย ‘รักผมได้ไหม คุณแฟน?’ (SBS / 2019)
  • ‘Hotel Del Luna’ ชื่อไทย ‘รอรักโรงแรมพันปี’ (tvN / 2019)
  • ‘Start-Up’ ชื่อไทย ‘สตาร์ทอัพ’ (tvN / 2020) 
  • ‘Beyond Evil’ ชื่อไทย ‘ปมปีศาจ’ (JTBC / 2021)
  • Link: Eat, Love, Kill’ (tvN / 2022)

ผลงานหนังเด่นๆ ของ ยอจินกู

เขาเป็นคนที่เล่นหนังมากพอสมควรเลยนะครับเนี่ย โดยจะเล่นหนังแทรกสลับกับการเล่นซีรีส์อยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ช่วงหลังๆ จะเล่นหนังน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ยังเล่นอยู่นะครับ

เรื่อง Sad Movie / อีกนิยามรัก / ปี 2005

Yeo Jin Goo in Sad Movie
Yeo Jin Goo in ‘Sad Movie’

นี่คือผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่ยอจินกูแสดง ภาพยนตร์เกาหลีแนวรอมคอมปนดราม่าที่เล่าเรื่องราวของ 4 เหตุการณ์หลักที่เดินเรื่องแยกแต่มีบางส่วนเชื่อมโยงถึงกัน โดยในเรื่องนี้ จินกูเล่นเป็นพัคฮีชาน ลูกชายของแม่ที่เป็นนักออกแบบภายในผู้มีชื่อเสียง เขาเป็นเด็กน่ารักแต่มักแสดงอารมณ์โกรธทุกครั้งที่แม่ไม่อยู่ เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากในบ้านเกิดแถมยังได้เข้าไปฉายในญี่ปุ่นครับ


เรื่อง A Frozen Flower / อำนาจ/ราคะ ใครจะหยุดได้ / ปี 2008

Yeo Jin Goo in A Frozen Flower
Yeo Jin Goo in ‘A Frozen Flower’

หนังเรื่องนี้ค่อนข้างโด่งดังในบ้านเราพอตัว ด้วยเพราะเนื้อหาและความเป็นหนังอีโรติกอิงประวัติศาสตร์ของมัน นำเค้าโครงมาจากเรื่องจริงของราชวงศ์โครยอแต่ไม่ได้เล่าตามจริงไปเสียทั้งหมด นำแสดงโดย จูจินโม ที่เล่นเป็นพระราชาแห่งโครยอผู้ถูกกดดันให้ผลิตรัชทายาทเพื่อสืบทอดบัลลังก์ แต่ความจริงแล้ว พระราชามีใจให้กับฮงริม (ที่รับบทโดย โจอินซอง) หัวหน้าองครักษ์ผู้ภักดี และยอมให้ฮงริมร่วมหลับนอนกับมเหสี (ที่รับบทโดย ซงจีฮโย) อันส่งผลให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดตามมา

และในหนังเรื่องนี้ ยอจินกู ก็ได้เล่นเป็น ฮงริม ในวัยเด็กนั่นเองครับ


เรื่อง Hwayi: A Monster Boy / ปี 2013

ยอจินกู ในหนังเรื่อง Hwayi: A Monster Boy
ยอจินกู ในหนังเรื่อง ‘Hwayi: A Monster Boy’

เพราะผลงานเรื่องนี้ที่ทำให้ ยอจินกู ได้รับรางวัล มันจึงไม่อาจมองข้ามไปได้ เป็นอีกครั้งที่เขาได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นให้เห็น หนังในปี 2013 เรื่องนี้ว่าด้วย ฮวาอี เด็กชายที่ถูกเลี้ยงมาโดยแก๊งอาชญากรทั้งห้า หลังจับเด็กคนนี้มาเพื่อหวังเรียกค่าไถ่แต่เกิดผิดพลาดจนต้องเลี้ยงต่อ พวกเขาฝึกฮวาอีให้เชี่ยวชาญวิชาโจรหวังให้วันหนึ่ง เด็กคนนี้จะเป็นอย่างพวกเขา แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเมื่อซอกแท (รับบทโดย คิม ยุนซอก) พาฮวาอีไปทำภารกิจแรก โดยไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นการปลุกปีศาจร้ายในตัวเขา ทั้งยังเปิดเผยความจริงบางอย่างออกมาด้วยเช่นกัน

รางวัลที่ได้รับจากหนังเรื่อง Hwayi: A Monster Boy

  • รางวัล Best New Actor จากเวทีการประกาศรางวัล 2013 (33rd) Korean Association of Film Critics Awards
  • รางวัล Best Rookie Actor จากเวทีการประกาศรางวัล The 34th Blue Dragon Film Awards

เรื่อง Ditto / ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา / ปี 2022

ยอจินกู ในหนังเรื่อง ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา
ยอจินกู ในหนังเรื่อง ‘ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา’
credit: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

‘ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา’ เรื่องนี้รีเมกจากหนังโรแมนติกดราม่าสุดคลาสสิกในปี 2000 อย่าง ‘รักต่างมิติ’  เล่าเรื่องเดียวกันแต่สลับเพศตัวละครและปรับเปลี่ยนช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเรื่องนี้ ยอจินกู เล่นเป็น คิมยง ชายหนุ่มที่นักศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลที่เรียนในมหาวิทยาลัย เขาอยู่ในปี 1999 ผู้กำลังตกหลุมซอฮันซอล (รับบทโดย คิมฮเยยุน) สาวปี 1 ที่เพิ่งเข้ามา แต่เพราะเครื่องวิทยุสมัครเล่นที่หยิบยืมมาจากเพื่อน ทำให้เขาได้ติดต่อกับ คิมมูนี (รับบทโดย โจอีฮยอน) หญิงสาวอีกคนที่มีชีวิตอยู่ในปี 2022 และการติดต่อสื่อสารกันคนละช่วงเวลาของเขาและเธอได้เปิดเผยบางสิ่ง


รายชื่อผลงานภาพยนตร์ทั้งหมดของ ยอจินกู

หยิบยกมาไม่หมดทุกเรื่องก็จริง แต่ก็จะขอลิสต์รายชื่อหนังทั้งหมดที่ยอจินกูได้เล่นเอาไว้ตรงนี้

  • ‘Sad Movie’ ชื่อไทย ‘อีกนิยามรัก’ (2005)
  • ‘No Mercy for the Rude’ (2006)
  • ‘Are You Crazy’ (2008)
  • ‘Sorry Apple’ (2008)
  • ‘Antique’ (2008)
  • ‘A Frozen Flower’ ชื่อไทย ‘อำนาจ/ราคะ ใครจะหยุดได้’ (2008)
  • ‘Hwayi: A Monster Boy’ (2013)
  • ‘Mr. Perfect’ (2014)
  • ‘Tazza: The Hidden Card’  (2014)
  • ‘Shoot Me in the Heart’ (2015)
  • ‘The Long Way Home’ (2015)
  • ‘Warriors of the Dawn’ (2017)
  • ‘1987: When The Day Comes’  (2017)
  • ‘Ditto’ ชื่อไทย ‘ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา’ (2022)

ถือเป็นบทความส่องประวัติที่ค่อนข้างยาวและเยอะที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา ก็หวังว่าทุกคนที่ชื่อชอบ ยอจินกู จะได้อ่านกันอย่างจุใจและมีความสุขที่เลือกรักได้ถูกคนเช่นนี้นะครับ

ข้อมูลอ้างอิง:

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ