ภาพยนตร์

คุยกับ โซชิ มัทสึโมโตะ ผู้กำกับและเขียนบท หนังฮิตขวัญใจผู้ชม It’s a Summer Film!  (เกือบจะไม่ได้) ฉายแล้วหน้าร้อนนี้!

ก่อนจะได้ดูหนัง มาคุยกับ โซชิ มัทสึโมโตะ ผู้กำกับและเขียนบทกันก่อน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวคราวกันมาบ้างแล้ว หลังเคยเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2565 ได้รับกระแสตอบรับและพูดถึงในด้านบวกเกี่ยวกับหนังญี่ปุ่นเรื่องใหม่ ‘It’s a Summer Film!’ หรือชื่อไทย ‘(เกือบจะไม่ได้) ฉายแล้วหน้าร้อนนี้!’ ล่าสุด ทาง มงคลภาพยนตร์ เตรียมนำหนังเรื่องนี้กลับเข้ามาฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 17 มีนาคม 2565 นี้

แต่ก่อนที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้ เรามีบทสัมภาษณ์ของ Soshi Masumoto/โซชิ มัทสึโมโตะ ผู้กำกับและเขียนบท หนังฮิตขวัญใจผู้ชมเรื่องนี้มาฝากกัน

โซชิ มัทสึโมโตะ ผู้กำกับและเขียนบทหนัง '(เกือบจะไม่ได้) ฉายแล้วหน้าร้อนนี้!'
โซชิ มัทสึโมโตะ ผู้กำกับและเขียนบทหนัง ‘(เกือบจะไม่ได้) ฉายแล้วหน้าร้อนนี้!’

บทความนี้มีอะไรบ้าง? ซ่อน

Q. แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณตัดสินใจสร้างหนังเรื่องนี้

ผมได้พูดคุยกับคุณ นาโอยูกิ มิอุระนักเขียนบทละคร ที่มีโอกาสร่วมงานกันหลายต่อหลายครั้งว่า อยากทำหนังยาวบ้างเนอะ จนราวๆฤดูใบไม้ผลิปี 2018 เราก็เริ่มจัดการประชุมเพื่อวางแผนสร้างหนังยาวขึ้น ส่วนใหญ่พวกผมก็พากันไปซาวน่าแล้วพูดคุยกันเรื่องผลงานที่ได้ชมได้อ่านในช่วงที่ผ่านมาแล้วค่อยคุยกันเรื่องแผนและบทกันแบบคร่าวๆ จนวันหนึ่งหลังจากที่พวกเราเข้าซาวน่าเสร็จแล้วนั่งคุยกันที่โรงอาหารจนถึงเช้า วันนั้นเราคุยกันจนจากโครงเรื่องที่ไม่มีอะไรจนกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทั้งบทหลักและคาแรคเตอร์ของตัวละคร คืนนั้นต่างคนต่างไอเดียพุ่งกระฉูด ผมยังจำความตื่นเต้นในตอนนั้นได้เลย มันเจ๋งแน่ๆ ถ้าทำตามนี้ได้  ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลยครับในชีวิต (จากนั้น เพื่อนของพวกเราอย่างคุณ โคเฮ อิไนสุมิ บรรณาธิการหนังสือการ์ตูน และ คุณมิยาโมโตะ โอคุยามะ แห่ง LOLO Productiondก็เข้ามาร่วมด้วย) ในระหว่างการประชุมวางแผน ผมคิดว่า บทนำเรื่องนี้ต้องเป็นคุณมาริกะอิโตะ เท่านั้น วันถัดมาจึงใช้เส้นสายคนรู้จักติดต่อผู้จัดการของคุณ มาริกะ อิโตะ แล้วให้เธอพิจารณาบทจนสุดท้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ออกมาจนได้ครับ

Q. เหตุผลที่เลือกคุณอิโตะ และคุณ คาเนโกะมารับบทนำ

ตัวละครหลักอย่างฮาดาชิ คือเด็กม.ปลายที่มีแพชชั่นอย่างแรงกล้าในการสร้างผลงาน คนที่น่าจะต่อสู้ด้วยดาบได้ พอคิดอย่างนั้นแล้วชื่อของคุณมาริกะ อิโตะ  ลอยขึ้นมาทันทีเลยครับ คุณอิโตะเองก็เป็นศิลปินที่สร้างสรรค์งานศิลปะอยู่แล้ว อีกทั้งภาพที่เธอแสดงและเต้นไปด้วยใน ‘Hajimarika’ เป็นภาพจำที่ติดหัวอยู่ ถ้าเทียบกับบทฮาดาชิแล้วเราค่อนข้างใช้เวลาในการคิดภาพลักษณ์ที่อยากให้เป็นของบท รินทาโระ นานอยู่เหมือนกัน จนได้เจอกับคุ ไดจิ คาเนโกะ ด้วยท่าทางการยืนที่สง่าผ่าเผย อีกทั้งแววตาของเขาทำให้ผมมั่นใจว่า ‘นี่แหละรินทาโระ!’ (ในหนังฮาดาชิก็พูดแบบเดียวกัน ความรู้สึกของผมไม่ต่างจากเธอในหนังเลย) ทั้งบทชายหนุ่มผอมสูงจากเรื่อง ‘Fujoshi, Ukkari Gei Ni Tsugeru’ ที่เขาเคยเล่นทำให้ภาพลักษณ์ของรินทาโระ เด่นชัดขึ้นมา ทั้งคาแรคเตอร์ของเจ้าตัวที่มีสีหน้าดูเหมือนจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่พอเจอตัวแล้วกลับเป็นมิตร (แถมยังไฟแรง) ก็ดูเหมาะกับ รินทาโระดีครับ

Q. ได้ไอเดียภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากไหน?

ก่อนอื่นเลย ผมเริ่มคิดโครงเรื่องด้วยคอนเซ็ปที่ว่า อยากทำหนังฤดูใบไม้ผลิที่ไม่เน้นความโรแมนติก → อยากพูดถึงเหล่าวัยรุ่นที่ตั้งใจสร้างอะไรบางอย่าง → อยากให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างหนังดราม่าประวัติศาสตร์โดยโอตาคุละครประวัติศาสตร์ ให้ตัวเอกของเรื่องเป็นคนชอบสวนกระแส มีความชื่นชอบในนักแสดงละครประวัติศาสตร์สมัยก่อน → มีคนจากอนาคตที่เป็นแฟนคลับของตัวเอกย้อนเวลามาร่วมสร้างภาพยนตร์ด้วยกัน

ผมรู้สึกว่าการที่ลูกศรโยงระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคตล้อกันไปล้อกันมาแบบนี้มันน่าสนุกดี  รู้สึกว่ามันน่าสนใจที่ปลายมันบรรจับกันตอนท้ายเรื่องแล้วมุ่งไปสู่อนาคตเหมือนกัน ผมเชื่อว่าการก้าวจากอดีตสู่อนาคตสามารถทำได้และมันทับซ้อนกับการสร้างภาพยนตร์ด้วย

Q: มีผลงานใดบ้างที่ใช้อ้างอิงในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม

พวกจังหวะการดำเนินเรื่องของ ‘Water Boys’ ผลงานชิ้นเอกของสโมสรภาพยนตร์ระดับไฮสคูลมีประโยชน์มากตอนคิดพล็อตเรื่องครับ อย่างภาพยนตร์เรื่อง ‘Linda Linda Linda’ ก็ถือเป็นภาพยนตร์โปรดของผม ในหนังมี “ฉากตามหานักร้องนำของวงในสวน” ผมเลยหยิบล้อเป็นฉาก “ตามหานักแสดงนำ” ในเรื่อง ผมย้อนกลับไปดูภาพยนตร์เรื่อง ‘The Girl Who Leapt Through Time’ อยู่หลายครั้ง อย่างภาพยนตร์เรื่อง ‘Location’ ที่กำกับโดย อซุมะ โมริซากิ ที่ขอบเขตของนิยายมันคลุมเครือในตอนท้ายก็มีประโยชน์เช่นกัน  ฉากไคลแม็กซ์ในโรงยิมของภาพยนตร์อเมริกาชื่อดังเรื่อง ‘Rushmore’ ก็ด้วย อีกทั้งผมยังได้แรงบันดาลใจจากเนื้อเพลง Oldies ของแร็ปเปอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ PUNPEE ด้วยครับ

Q: ที่ผ่านมาคุณเคยมีส่วนร่วมในในการสร้างโฆษณาและมิวสิควิดีโอมาบ้างแล้ว ได้นำประสบการณ์เหล่านั้นมาใช้ในการสร้างภาพยนตร์ไหม นอกจากนี้ ช่วยเล่าถึงความแตกต่างด้วย

ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการสร้างโฆษณาและมิวสิกวิดีโอถูกใช้ในฉาก ภาพสเกตช์ที่ไม่มีบทสนทนา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายทำหนึ่งตัวละครนานขนาดนี้ ดังนั้นประสบการณ์ในการทำความรู้จักกับตัวละครในขณะถ่ายทำจึงเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก

Q: อะไรที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ

ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือการปูเรื่องขึ้นเพื่อฉากสุดท้าย ดังนั้นผมจึงคิดเสมอว่าจะเดินเรื่องไปฉากสุดท้ายอย่างไรโดยไม่ให้มันจาง ผมอยากพาคนดูไปจนถึงฉากสุดท้าย พอกันกับความกระตือรือร้นของฮาดาชิที่ลากเพื่อนๆและคนรอบตัวมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ความกระตือรือร้นของฮาดาชิไม่มีทางโกหกความรู้สึกชอบที่เธอมีให้แก่ละครประวัติศาสตร์และความอยากสร้างภาพยนตร์ของเธอ ผมจึงมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กับคุณ อิโตะ ก่อนการถ่ายทำหลายครั้ง

Q. ความรู้สึกหลังผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จสิ้น

จนกว่าหนังจะเสร็จ มีปัญหาอยู่มากมายครับ  (มีการพักการถ่ายทำไปเพราะ COVID-19) ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไฟที่แรงกล้าจากการพูดคุยกันคืนนั้นจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นจอใหญ่ ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสผู้กำกับมือใหม่คนนี้ด้วยครับ

Q. ‘It’s a Summer Film’ ได้แฝงความรู้สึกอะไรไว้ในชื่อภาพยนตร์รึเปล่า

‘It’s a Summer Film’ กับแนวคิดที่ว่า หนัง = ไทม์แมชชีน  เหมือนเราได้นั่งไทม์แมชชีนไปด้วย

Q. ในฐานะผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ อยากฝากอะไรถึงคนดูบ้าง

ผมยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าอยากจะฝากอะไรถึงคนดู ในภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะมีการทำภาพยนตร์เป็นแรงจูงใจอยู่ แต่สิ่งที่อยากจะสื่อไม่ใช่ “ความรักที่มีต่อภาพยนตร์” ครับ แต่เป็นความชื่นชอบ ความชื่นชอบในละครประวัติศาสตร์ของฮาดาชิ มันดึงดูดให้ได้พบกับรินทาโระ “ความรู้สึกชอบมันถูกส่งต่อให้ใครบางคน แล้วมันก็ยังทำให้ใครบางคนลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง” ผมเชื่อในพลังในการชื่นชอบอะไรสักอย่าง

Q. จากนี้อยากสร้างผลงานแบบไหน

อยากสร้างผลงานที่มีความ Pop และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานครับ


อ่านบทสัมภาษณ์ Sôshi Masumoto ผู้กำกับและเขียนบทของหนังเรื่องนี้กันไปแล้ว ก็อย่าลืมไปดูหนังฮิตขวัญใจผู้ชมในโรงกันในวันที่ 17 มีนาคม 2565 นี้นะครับ

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ