ผมมีความเชื่อครับ มีความเชื่อว่าใครหลายคนน่าจะเคยได้ผ่านการดูแอนิเมชันเรื่อง ‘Aladdin’ ของดิสนีย์กันมาแล้ว หรือถ้าไม่เคยดูก็เชื่อว่าจะเคยได้ยินเสียงเพลง ‘A Whole New World’ ผ่านหูมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ว่าวันนี้แหละที่ทุกคนจะได้ทำความรู้จักกับหนัง ‘อะลาดิน’ ในแบบฉบับคนแสดง
เมื่อเทพนิยายดิสนีย์หนนี้มอบหมายให้กับ Guy Ritchie เป็นผู้กุมบังเหียนกำกับทิศทาง ผลงานเก่าๆ ของเขาทำให้หลายคนสงสัย ไม่ว่าจะ ‘King Arthur: Legend of the Sword’, ‘The Man from U.N.C.L.E.’ หรือ ‘Sherlock Holmes’ ทั้งสองภาค เพราะไม่รู้ว่าอะลาดินเวอร์ชันของเขานั้นจะออกมาแนวไหน
เรื่องย่อหนัง ‘Aladdin’
เรื่องราวของอะลาดิน (Mena Massoud จากหนังเรื่อง ‘Run This Town’ และซีรีส์ ‘Jack Ryan’) เด็กหนุ่มข้างถนน จอมโจรเจ้าเล่ห์แห่งเมืองอัคราบาห์ เด็กหนุ่มมีลิงจ๋อคู่กายอยู่ตัวหนึ่งที่ทะเล้นและขโมยเก่งไม่แพ้กัน
แต่อยู่มาวันหนึ่ง อะลาดินก็ได้พบว่าเจ้าหญิงจัสมิน (Naomi Scott จากเรื่อง ‘Power Rangers’) เข้าโดยบังเอิญในวันที่เธอปลอมตัวออกมาเดินเที่ยวเมือง และมันก็ทำให้อะลาดินติดใจถึงกับปลอมตัวเข้าไปเจอกับเธอถึงในวัง
ทว่าในวังมีจาฟาร์ (Marwan Kenzari จากหนังเรื่อง ‘The Mummy’ และ ‘What Happened to Monday’) เสนาบดีผู้มักใหญ่ใฝ่สูงอยู่คนหนึ่ง ผู้มุ่งหวังได้เป็นสุลต่านเมืองอัคราบาห์ ทว่าสิ่งที่มันต้องการคือตะเกียงวิเศษ แต่ผู้ที่ได้มันไป ก็อย่างที่รู้กัน… อะลาดิน
คราวนี้ เพื่อให้แผนการณ์ทุกอย่างสำเร็จ จาฟาร์จึงต้องแย่งชิงตะเกียงที่มีจีนี่ (Will Smith จากหนังเรื่อง ‘Suicide Squad’ และ ‘I Am Legend’) ยักษ์สีฟ้าผู้บันดาลทุกสิ่งได้ตามคำขอที่มีจำนวนข้อจำกัด
เหตุการณ์ชุลมุนชุลเกที่มีเมืองเป็นเดิมพันจึงบังเกิดขึ้น
รีวิวหนัง ‘อะลาดิน’
หนังค่อยๆ ไล่เล่าเรื่องไปทีละขั้นทีละตอน เริ่มต้นทำให้คนรู้จักความเป็นอะลาดินก่อนจะนำไปสู่การรู้จักกับเจ้าหญิงจัสมิน แต่ในระหว่างนั้นก็เล่าเพียงบางๆ ถึงความทะยานอยากของจาฟาร์ ก่อนที่เวลาจะพาเส้นทางของอะลาดินและจาฟาร์มาบรรจบกัน สองคนที่มีจุดร่วมคือความต้องการในตะเกียงและยักษ์สีฟ้า จีนี่
แต่ในระหว่างทาง หนังก็พาคนดูเพลินเพลิดและสนุกไปกับงานภาพและซีนแอ็กชั่น สักพักก็กลับมาร้องเพลงกันต่อ ซึ่งก็คงต้องนับว่า ซีนที่มีจีนี่กลายเป็นซีนที่น่าประทับใจสุด
ด้วยลีลายียวนชวนขโมยซีนที่ Will Smith รับหน้าที่ได้เป็นอย่างดีจนใครบางคนอาจบอกว่าเขาคือคนที่แบกตัวหนังเอาไว้ ทั้งที่จริงนั้น แม้แต่พระนางเองก็ทำไว้ได้ดีมิใช่น้อย Naomi Scott ที่หน้าคมสวยสไตล์แขกเหมาะกับการเป็นเจ้าหญิงจัสมินพอตัวอยู่ เธอร้องเพลงได้ดี นัยน์ตาบ่งบอกอารมณ์ได้พอสมควร
ขณะที่ Mena Massoud นั้น ก็เป็นเด็กข้างถนนที่หากินกับการลักขโมยแต่กลับมีจิตใจที่ดี ซึ่งก็ทำหน้าที่ทั้งร้องทั้งเต้นได้ค่อนข้างดี
หนังมิได้ให้เวลากับการร้องมากนัก เน้นเอาเพลงหลักๆ มาใช้เสียมากกว่า หลายช่วงที่พูดคุยกันจนลืมว่าเป็นเคยเป็นหนังเพลงไปเลยก็ดี มุกมากมายหลากหลายที่ถูกหยิบใช้จนทำให้ ‘อะลาดิน’ เป็นหนังคนแสดงที่ดูสนุกเพลินกว่าที่คิด
นอกจากจีนี่จะเป็นตัวขโมยซีนแล้ว ตัวที่ร่วมขโมยก็ยังมีอีกหลายตัวลดหลั่นกันไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าลิงจ๋อจอมขโมย พรมวิเศษ และเจ้าเสือโคร่ง
ในด้านของวิชวล งานภาพ ซีจี ถือว่าทำได้ดีผนวกกันจนกลายเป็นหนังที่น่าชื่นชมในด้านงานภาพ ซีนแอ็กชั่นบางส่วนนี่ทำให้นึกไปได้ว่า หากชมในแบบ 3 มิติมันก็คงจะสนุกกว่านี้ และซีน ‘A Whole New World’ ก็คงจะตื่นตากว่านี้เช่นกัน
โดยหนังก็ยังคงเมนไอเดียแบบที่หนังแอนิเมชันดิสนีย์ตั้งใจจะสื่อ คนเราจะนับถือกันที่ฐานะและตำแหน่ง หรือนับถือกันที่จิตใจและความดี การปกครองบ้านเมืองต้องนึกถึงตัวเองหรือนึกถึงชาวบ้าน สุดท้าย ถ้าเราได้โอกาสที่จะให้พรสัก 3 ข้อเป็นจริงได้
เราจะขอให้ตัวเอง หรือขอให้คนอื่น?
ชื่อภาพยนตร์: Aladdin / อะลาดิน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Guy Ritchie
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: John August, Guy Ritchie
นักแสดงนำ: Will Smith, Mena Massoud, Naomi Scott, Nasim Pedrad, Marwan Kenzari
ความยาว: 128 นาที
ปี: 2019
แนว/ประเภท: Adventure, Comedy, Family, Fantasy, Musical, Romance
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/G
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 23 พฤษภาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Lin Pictures, Rideback
อะลาดิน
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7
ดนตรีประกอบ - 8
การดำเนินเรื่อง - 8
งานภาพ - 9
7.8
Aladdin
หนังที่เคยเป็นแอนิเมชั่น วันนี้เป็นหนังคนแสดง ซึ่งดูสนุก เพลิดเพลิน ด้วยส่วนผสมที่จัดว่าลงตัวกว่าหลายเรื่องก่อนหน้า นางเอกสวย พระเอกจริงใจ จีนี่ขี้เล่น มีตัวขโมยเยอะ งานภาพดี ดูๆ อาจเผลอมีน้ำตา