รีวิวหนัง Midsommar เทศกาลสยอง | ทั้ง weird ทั้งเหวอ

โลกนี้มีหนังหลายหลากจริงๆ นะครับ รสนิยมการรับชมหนังก็หลากหลายไม่แตกต่างกัน ในฐานะที่ชอบดูหนังไม่ค่อยเลือกดูได้หลากแนว เมื่อเจองานของผู้กำกับที่มีแนวทางเฉพาะตัวแถมทำได้เก่งกาจ เมื่อหนังเตรียมเข้าแล้วทั้งทีจะปล่อยโอกาสรับชมให้หลุดลอยไปได้เช่นใด ในที่สุด นายแพทก็ได้ไปดูมาแล้ว ‘Midsommar’ หรือชื่อไทยก็ ‘เทศกาลสยอง’ นั่นแหละคัรบ

ด้วยผลงานการกำกับของ Ari Aster ชายผู้ซึ่งเคยสร้างผลงานหลอนขึ้นหิ้งอย่าง ‘Hereditary’ ทว่าคราวนี้ เขาหันมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่อง เรื่องราวของเทศกาลประหลาดที่เกิดขึ้นในสวีเดน เมืองที่เวลากลางคืนมีน้อยกว่ากลางวัน

ไปดูว่าเรื่องราวหลอนๆ จะเกิดขึ้นท่ามกลางแสงจ้าได้อย่างไร

เรื่องย่อหนัง ‘เทศกาลสยอง’

เมื่อหนุ่มๆ ชักชวนกันไปเที่ยวงานเทศกาลๆ หนึ่งที่สวีเดน แล้วมีหญิงสาวอีกคนผู้กำลังเผชิญความหดหู่แห่งความสูญเสีย เธอเลือกที่จะร่วมก๊วนไปเทศกาลนี้ด้วย

แดนี่ (Florence Pugh จาก ‘Lady Macbeth’, ‘The Commuter’ และ ‘Outlaw King’ ใน Netflix) เธอคือผู้ที่กำลังโศกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ความโศกนั้นผลักดันให้เธอหลวมตัวไปสวีเดนกับเหล่าหนุ่ม อันได้แก่ คริสเตียน (Jack Reynor จาก ‘Sing Street’) แฟนของเธอเอง, จอช (William Jackson Harper) เพลเล (Vilhelm Blomgren) และมาร์ก (Will Poulter)

แต่ทว่า งานเทศกาลนี้ที่ดูสวยงามในภาพแรกที่ได้เจอ เวลายิ่งผ่าน เหมือนทุกอย่างจะเริ่มแปรเปลี่ยนไม่เป็นเช่นที่คาดฝัน ความน่าสะพรึงกลัวแสนหลอนเข้าปกคลุม

หนุ่มสาวจะเอาตัวรอดเช่นไรในเทศกาลท่ามกลางแสงตะวันเช่นนี้

รีวิวหนัง ‘Midsommar‘

หนังที่สร้างบทขึ้นมาจากเรื่องเล่าพื้นเมือง มันกลายเป็นหนึ่งในหนังสไตล์ Folk-Horror ไม่ว่าประเพณีเช่นนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่มันก็ทำออกมาได้หลอนจนเราต้องอึ้ง

อันที่จริง นอกเหนือจากชีวิตที่โศกเศร้าของแดนี่ เธอเองก็มีความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนกับแฟนหนุ่มด้วยเช่นกัน ทว่า เหตุโศกเศร้าที่หนักหนาสาหัสสำหรับแดนี่กลับทำให้ทั้งสองยังคงต้องเดินต่อ และนำไปสู่การเดินทางยังโลกที่แปลกใหม่ เดินเข้าไปดังคนนอกที่เข้าไปหาและสัมผัสกับทุกสิ่งที่แปลกตา

แต่มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดเสมอไป

มันคือเทศกาลหลุดโลกที่ฉลองให้กับ 9 วันที่ดวงตะวันส่องประกาย 90 ปีถึงจะมีเทศกาลนี้สักครั้ง เรื่องราวของเทศกาลที่พวกเขาเพียงรู้ว่ามีแต่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน มันมีทั้งพิธีกรรม มีทั้งการแต่งกาย มีทั้งเพลงที่ร่ำร้อง ไม่มีใครในพวกเขาที่ล่วงรู้มาก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเทศกาลนั้น ทุกวินาทีคือสิ่งอันไม่อาจคาดเดา

และหลายสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นชวนเหวอได้เลยทีเดียว

เราผู้ชมเองก็ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มตัวละครหลักนั่นแหละ ต่างก็เหมือนเป็นคนนอกที่เดินเข้าไปเจอกับเทศกาล พิธีกรรม ความเชื่อ ความเป็นอยู่ ของคนที่นั่น เราไม่เคยรู้จักเพราะเขาไม่เคยเปิดให้เราได้รู้มาก่อน

เหมือนอย่างที่ตัวละครว่าไว้เลย ‘It’s like another world.’

จากที่เราเจอแต่ความมืดทึมใน ‘Hereditary’ บัดนี้ เราได้เจอกับความสว่างเป็นส่วนใหญ่ใน ‘Midsommer’ เหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนลานหญ้ากว้าง หากแต่สรรค์สร้างสถานการณ์และความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจสาดใส่คนดูได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อภาพที่ชวนสงสัยใคร่รู้ ประกอบด้วยดนตรีที่เน้นเครื่องสายชวนบาดลึก กับภาพที่ชวนอึ้ง ตกใจ เหวอ

จะเรียกว่าหลอนมั้ย สำหรับผม มีบางส่วนที่รู้สึก weird บางส่วนที่ทำให้เหวอ…

เป็นเรื่องราวที่เราเองคงไม่ได้คาดว่าจะเจอ บางฉากก็ทำให้เรารู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าควรจะยอมรับมั้ยว่านั่นมันเป็นวัฒนธรรมความเชื่อของพวกเรา เราเป็นแค่คนนอกที่เข้าไปพบเห็น ความแตกต่างกันมากทางด้านความคิดเรื่องชีวิตทำให้คนที่มาจากข้างนอกทำใจยอมรับได้ยาก ทว่า ช่วงเวลาถัดๆ มาของหนังก็ยิ่งพาให้รู้สึกว่าอยากหลีกหนีไปจากที่นั่นเสียเหลือเกิน

ขณะที่บางฉากทำให้เหวอและกระอักกระอ่วน แต่บางฉากกลับทำให้ถึงกับเหวอ มีความฮาและความเหวอระคนกัน เป็นประสบการณ์อันแปลกใหม่ที่ไม่ได้เจอกันง่ายๆ

แต่มันต่างจาก ‘Hereditary’ ตรงที่เรื่องนั้นทำให้รู้สึกกลัว ระทึกและหลอน ขณะที่เรื่องนี้กลับทำให้รู้สึกประหลาดใจ อึ้ง เหวอ และบ้างก็ weird

อะไรประมาณๆ นั้น

ชื่อภาพยนตร์: Midsommar / เทศกาลสยอง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ari Aster
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ari Aster
นักแสดงนำ: Florence Pugh, Jack Reynor, Vilhelm Blomgren, William Jackson Harper, Will Poulter
แนว/ประเภท: Drama, Horror, Thriller, Mystery
เรท: USA/15, ไทย/
ความยาว: 147 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.00 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 15 สิงหาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย:  B-Reel Films, Square Peg, A24