ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Mission: Impossible 8 ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ | ลุ้นจนเหนื่อย

เมื่อทีมอีธาน ฮันต์ ต้องรับมือเอไอโคตรฉลาดด้วยภารกิจโคตรโม้

เราได้ดูปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ พาร์ทวัน กันไปเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงปีนี้ การรอคอยนั้นสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อ ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’ หรือชื่อไทย มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ ครึ่งที่สองของภารกิจที่โคตรเป็นไปไม่ได้กำลังเข้าฉายในชมกันในโรงภาพยนตร์แล้ว ใครที่ติดตาม อีธาน ฮันต์ มาตลอด 30 ปี ยังไงภาคนี้ก็ต้องไม่พลาดใช่มั้ยล่ะ

ฉากเสี่ยงตายบนเครื่องบินของทอม ครูซ ในหนัง มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ภาคที่แปด
ฉากเสี่ยงตายบนเครื่องบินของทอม ครูซ ในหนัง ‘มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล’ ภาคที่แปด
Source|UIP Thailand

คิดเห็นเช่นไรกับหนังมิชชั่นภาคนี้?

หลังเริ่มภารกิจไปแล้วในภาคก่อน ก็ถึงเวลาปิดจ็อบกันเสียทีในภาคนี้ เรื่องราวของเอไอฉลาดล้ำที่ อีธาน ฮันต์ และพรรคพวก ต้องหยุดยิ้งหายนะโลกให้ได้นี้ พาแฟนหนังมิชชั่นแฟลชแบ็กไปฟื้นความจำภาคเก่าอย่างเมามันในครึ่งเวลาแรก แซมด้วยแก๊กชวนฮาที่บ้างก็ชวนเกาหัว แต่ก็ทำให้หนังใช้เวลาไปมาก ก่อนจะเข้าสู่ภารกิจอิมพอสซิเบิ้ลอย่างจริง ๆ จัง ๆ ในครึ่งเวลาหลัง

ด้วยซีเควนซ์ยาว ๆ ของสองฉากแอ็คชันโคตรลุ้น ทำให้ครึ่งหลังโดนใจสุด ส่วนแมสเสจความไว้เนื้อเชื่อใจก็เป็นอะไรก็แหล่มสุด ๆ เช่นกัน


เรื่องย่อหนัง ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’

เรื่องราวที่ถูกเล่าต่อจากภาคก่อนหน้า เมื่อ อีธาน ฮันต์ (Tom Cruise จากหนัง ‘Top Gun: Maverick’) ได้รับรู้การมีอยู่ของเอนทิตี้ เอไออันทรงพลังที่กำลังรุดหน้าเพื่อครอบครองและควบคุมทุกระบบทั่วโลก แม้จะยังยึดโยงอยู่กับมนุษย์ที่เป็นคู่ปรับเก่าอย่าง เกเบรียล (Esai Morales จากซีรีส์ ‘How to Get Away with Murder’) และแม้จะสามารถฉกชิงกุญแจมาได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าโลกนี้จะปลอดภัย จึงยังคงเหลือภารกิจกอบกู้โลกอีกครึ่งหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จต่อให้มันจะยากเย็นถึงขั้นเป็นไปไม่ได้แค่ไหนก็ตาม

ตัวอย่างหนังเรื่อง มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ [ซับไทย]

ในภารกิจครั้งนี้ อีธาน ยังคงร่วมมือกับคนที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจอย่าง ลูเธอร์ (Ving Rhames จากหนัง ‘The Wild Robot’), เบนจี้ (Simon Pegg จากหนัง ‘Terminal’), ปารีส (Pom Klementieff จากหนัง ‘Thunder Force’) และสมาชิกคนล่าสุดอย่างจอมโจรสาว เกรซ (Hayley Atwell จากหนัง ‘Avengers: Endgame’)


รีวิวหนัง ‘มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ’

ศัตรูของอีธาน ฮันต์ ในครั้งนี้ถือว่ามีอานุภาพเกินต้านมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญมาเลยก็ว่าได้ แถมมันไม่ใช่คน แต่เป็นเอไอที่ฉลาดล้ำ มองไม่เห็นตัวแต่ก็รู้ว่ากำลังทำอะไร แต่ไม่ว่ายังไงก็มีจุดอ่อน เพียงแต่เป็นจุดอ่อนที่กำจัดได้ยากยิ่งเท่านั้นเอง และเรื่องราวที่สุดจะซับซ้อน มีขั้นตอนมากมายกว่าจะลุล่วง จึงต้องใช้เวลาในการเล่ายาว 2 ภาค แถมแต่ละภาคก็ยาวเกิน 2 ชั่วโมงครึ่งทั้งนั้น คนจะเข้าไปดูก็ต้องเตรียมตัวกันให้ดี ๆ หน่อย

ภาคนี้เริ่มต้นเรื่องราวได้ค่อนข้างสะเปะสะปะนิดหน่อย ดูล้น ๆ มึน ๆ ในช่วงแรก มีช็อตที่พาขำและพยายามให้ขำโผล่เข้ามา ก่อนที่คนดูจะได้พบกับซีเควนซ์ของฉากแอ็คชันแบบยาว ๆ อย่างจุใจในครึ่งเวลาหลัง

ภาพจากหนังเรื่อง Mission: Impossible - The Final Reckoning
ภาพจากหนังเรื่อง ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’
Source|UIP Thailand

บทหนังมีความเชื่อมโยงกับภาคเก่าๆ ใครดูมาทุกภาคและจดจำรายละเอียดได้ทุกภาคก็จะอินและสนุกไปกับมัน นัยว่าภาคนี้จะขอรวบรวมสิ่งที่เคยเล่ามาเหลาให้มันบรรจบกันให้ได้ หยิบตัวละครเก่าๆ มาแฟลชแบ็กให้รื้อฟื้นความจำและร้องอ๋อกันอีกหน อาจเรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่เข้าที แต่ก็อาจเป็นอะไรที่บางคนเรียก “แถ” ได้อยู่เหมือนกันนะ

ระหว่างทาง อาจชวนให้คนดูรู้สึกหนักหัวไปบ้างเพราะต้องคิดตามไม่พัก ก่อนจะมาลุ้นระทึกแบบโล่งหัวแต่เกร็งทั้งตัวแทนก็เมื่อซีเควนซ์ของฉากแอ็คชันใหญ่ทั้งสองนั้นมาถึง ทอม ครูซ ของเรานอกจากจะไม่เลิกวิ่งและครั้งก่อนโชว์ลีลาขับรถซิ่งทั่วเวนิซทั้งที่ใส่กุญแจมือไปแล้ว หนนี้ เขาได้โอกาสลงน้ำและขึ้นบนฟ้าไปทำภารกิจเสี่ยงชีวิตที่ทำเอาคนดูเหนื่อยหอบไปตาม ๆ กัน ช่วงนี้นี่แหละมั้งที่น่าจะถูกใจคอหนังมิชชั่นมากที่สุด

ทอม ครูซ บนโปสเตอร์ Mission: Impossible - The Final Reckoning
ทอม ครูซ บนโปสเตอร์ ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’
Source|UIP Thailand

สิ่งที่เราจะได้เห็นในภาคนี้ ก็คงเป็นการทำภารกิจที่โคตรโม้-โคตรเป็นไปไม่ได้ที่ฮันต์ไม่มีทางทำคนเดียวได้สำเร็จ ซึ่งก็เป็นมาเช่นนี้ในทุกภาค ที่เพิ่มเติมมาคงเป็นการไว้เนื้อเชื่อใจกันของแต่ละตัวละคร ไม่ปล่อยให้ใครเป็นแค่พระรองคอยช่วยเหลือพระเอก แต่ทุกคนมีความสำคัญมากพอ ๆ กัน จนไม่อาจขาดใครไปได้หากจะทำมันให้สำเร็จ ไม่เว้นแม้แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในทีมเดียวกันก็ตาม

คงต้องบอกว่า นี่เป็นภารกิจที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริง แต่เป็นไปได้ในจักรวาลมิชชั่น โอกาสเพียงส่วนเสี้ยวที่จะเกิดขึ้นได้ ต้องบอกว่าโม้ไปมาก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คนดูต้องการไม่ใช่เหรอ งั้นก็โม้ให้เต็มที่ไปเลยละกัน

ทีมนักแสดงนำในหนัง มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ภาคนี้
ทีมนักแสดงนำในหนัง ‘มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล’ ภาคนี้
Source|UIP Thailand

หนังแอบใส่ดราม่าที่ชวนน้ำตาซึมเข้ามานิดหน่อย ซึ่งถ้าให้อินมากก็อาจถึงขั้นน้ำตาไหลได้ แต่จะว่าไป มันยังขยี้น้อยไปหน่อย และดูจะปรานีกับตัวละครและคนดูมากพอตัว ไม่งั้นคงเรียกน้ำตาให้ท่วมโรงได้แน่ ๆ

ภาคที่แล้ว 179 นาที มาภาคนี้ 169 นาที น้อยกว่าแต่ยังไงก็ยังรู้สึกว่ามันยาวไปอยู่ดี ยังไงก็เตรียมตัวกันก่อนเดินเข้าโรงไปดูกันเน่อ


มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ภาคก่อนหน้า


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Mission: Impossible – The Final Reckoning / มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ
กำกับChristopher McQuarrie
เขียนบทBruce Geller, Erik Jendresen, Christopher McQuarrie
แสดงนำTom Cruise, Hayley Atwell, Ving Rhames, Simon Pegg, Esai Morales, Pom Klementieff, Henry Czerny
แนว/ประเภทแอ็คชัน, ผจญภัย, ระทึกขวัญ
เรทPG-13
ความยาว169 นาที
ปี2025
สัญชาติสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร
เข้าฉายในไทย17 พฤษภาคม 2025
ผลิต/จัดจำหน่ายParamount Pictures, Skydance Media, TC Productions

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ