ภาพยนตร์รีวิว

รีวิว The Jungle Book เมาคลีลูกหมาป่า | เมาคลี 3 มิติเนียนๆ

จากการ์ตูนกลายเป็นหนังคนแสดงผสานซีจี งานภาพที่ละเอียดใกล้เคียงภาพจริง Neel Sethi แสดงคนเดียวเล่นดีสุดยอด

ช่วงเวลาของความสนุกสนานได้ผ่านพ้นไปแล้ว เทศกาลกลับบ้านสู่อ้อมอกของครอบครัว พบเห็นการสาดน้ำกันน้อยลงด้วยสภาวะภัยแล้งที่กร้ำกรายเข้าปกครองทั่วทั้งประเทศ แต่บรรยากาศในโรงหนังก็ยังมีผู้คนมาใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสาย แม้อาจจะลดน้อยลงไปบ้างแต่คนรักหนังก็เหลืออยู่อีกมากในกรุงเทพฯ กลับจากต่างจังหวัดครานี้ เหลือวันว่างเอาไว้หนึ่งวันเพื่อจะได้เก็บตกกับภาพยนตร์ที่หลายคนกล่าวขวัญถือ ‘The Jungle Book เมาคลีลูกหมาป่า’ เรื่องเล่าที่เคยอยู่ในหนังสืออ่านนอกเวลาสมัยเด็กๆ

The Jungle Book
‘เมาคลีลูกหมาป่า’ เวอร์ชั่น 2016

มันถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนแอนิเมชันให้ชมกันทั่วโลกเมื่อนานมาแล้ว และวันนี้ มันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเทคโนโลยีการสร้างที่เพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า จากการ์ตูน กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้นผสมผสานระหว่างการแสดงของคนจริงๆ กับทัศนียภาพของป่าและสิงสาราสัตว์ทั้งหลายที่เหล่านั้นล้วนเป็นผลงานมาจากคอมพิวเตอร์ล้วนๆ

จะว่าไปแล้วนี่เป็นหนังที่จำแนกยากนิดนึงว่าจะเป็นภาพยนตร์คนแสดงหรือแอนิเมชั่น แต่ดูท่าแล้ว เขาเป็นว่าภาพยนตร์คนแสดงอะนะ


เรื่องย่อหนัง ‘The Jungle Book’

เรื่องเล่าจากป่าที่เล่ากันมายาวนาน เรื่องราวของเด็กน้อยที่เติบโตในอ้อมกอดของป่า จากความอารีของเสือดำ บากีร่า (Ben Kingsley) ที่พาเขาให้มาอยู่กับฝูงหมาป่าที่นำโดยอาคีล่า (Giancarlo Esposito) โดยมีรัคชา (Lupita Nyong’o) แม่หมาป่าสีเทาขาวที่เลี้ยงมาพร้อมกับลูกน้อยของตัวเอง เขาได้เรียนรู้ระบบฝูงจากกลุ่มหมาป่า แต่เขาก็ดูเหมือนจะโตช้ากับลูกหมาป่าตัวอื่น อีกทั้งความสามารถและสัญชาตญานยังไม่อาจจะเทียมเทียมลูกหมาป่าได้

นั่นเพราะเขาเป็น “ลูกมนุษย์”

‘The Jungle Book’ – ตัวอย่างที่ 2 (Official ซับไทย HD)

ในป่ามีเสือลายพาดกลอนอยู่ตัวหนึ่ง นามว่าเชียร์คาน (Idris Elba) มันจงเกลียดจงชังในตัวมนุษย์มาก เมื่อมันรับรู้การมีอยู่ของเมาคลีในป่า มันจึงพยายามทำทุกทางเพื่อกำจัดทิ้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากบากีร่าทำให้เขาหนีออกไปได้ แม้ไม่พ้นป่าแต่ก็ยังได้เจอกับหมีอารีอย่างบาลู (Bill Murray) ผู้ที่ช่วยเขาให้รอดพ้นจากแม่งูยักษ์เจ้าเล่ห์อย่างคา (Scarlett Johansson)

เมาคลีได้เรียนรู้บางอย่างจากการได้อยู่กับบาลู แต่การผจญภัยก็ยังไม่สิ้นสุด เมื่อเขาได้พบกับลูอี้ (Christopher Walken) ราชาอุรังอุตังผู้ทะเยอทะยาน

และการตามรังควานไม่เว้นวายของเชียร์คานผู้เคียดแค้น


รีวิวหนัง ‘เมาคลีลูกหมาป่า’

ถ้าใครเคยได้ชม ‘เมาคลีลูกหมาป่า’ ฉบับการ์ตูนแอนิเมชันมาแล้ว ก็คงจะพบมันไม่ได้แตกต่างกันมากนักกับเรื่องราวที่เล่า แต่สิ่งที่แตกต่างเห็นได้ชัดก็คืองานภาพที่สร้างได้เหมือนเป็นของจริงมากทีเดียว (แต่เราก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ของจริง)

งานสร้างภาพต้องมา เด็กน้อยเยี่ยมมาก

เราๆ ท่านๆ คงพอรู้กันอยู่บ้างแล้วว่า ทุกวันนี้ เทคโนโลยีในการสร้างภาพเสมือนจริงนั้น มันไปไกลมากจนบางทีแทบจะแยกกันไม่ออกระหว่างของจริงกับของที่คนสร้างขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ ใน ‘เมาคลีลูกหมาป่า’ นี่ก็เช่นกัน เป็นการโชว์การสร้างภาพที่ทำได้เนียนตาอย่างกับของจริง

ภาพทิวทัศน์ในป่าใหญ่ที่มีต้นไม้รกครึ้ม มีสายน้ำลำธาร น้ำตกป่าเขา มีสัตว์ป่าน้อยใหญ่ บ้างก็อาศัยเดี่ยวๆ บ้างก็อยู่กันเป็นฝูง รวมไปการเคลื่อนไหวต่างๆ ของเหล่าสัตว์ ทีมงานทำออกมาได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ

งานประณีตของจริงแหละงานนี้

The Jungle Book
เมาคลี กับ บาลู

ขณะที่เมื่อได้ดูคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำ ก็จะพบว่าหนูน้อย Neel Sethi (จะเขียนว่า นิล เศรษฐี ก็คงไม่แปลก) มนุษย์คนเดียวที่แสดงอยู่ในเรื่อง ต้องเล่นกับฉากที่มองไม่เห็นสิ่งใดเลยในขณะถ่ายทำ ซึ่งน้องเขาก็ทำได้ดีมาก

Go Behind the Scenes of The Jungle Book (2016)

ขณะที่ภาพในรูปแบบ 3 มิติก็ทำออกมาได้มีมิติ เมื่อผนวกเข้ากับความยิ่งใหญ่ของจอ IMAX เรียกได้ว่ามันเป็นความน่าตื่นตาได้อย่างไม่เคอะเขินใดๆ

ดำเนินเรื่องน่าติดตาม แม้ไม่ถึงกับว้าวในใจ

งานกำกับของ Jon Favreau ผู้มีเครดิตผลงานมาจาก ‘Iron Man’ ทั้งภาค 1 และ 2, ‘Cowboys & Aliens’ และ ‘Chef’ พอจะทำให้อุ่นใจได้ประมาณหนึ่งว่าเขาจะทำ ‘เดอะ จังเกิล บุ๊ก’ เวอร์ชั่นคนแสดงผสมซีจีได้อย่างน่าตื่นใจ

โปสเตอร์ The Jungle Book
โปสเตอร์ ‘เมาคลีลูกหมาป่า’ เวอร์ชั่น 2016

เมื่อได้พบกับของจริงในโรงหนังจอใหญ่ยักษ์ พบว่าเรื่องราวมันถูกเรียงร้อยมาอย่างดี การดำเนินไปของเรื่องค่อนข้างไหลลื่น สร้างแรงกระเพื่อมในใจได้เป็นอย่างดี ช็อตดราม่าที่พาให้อินก็ทำได้ถึง พาน้ำตาซึมได้ ขณะที่ช็อตแอ็คชั่นตื่นเต้น ก็เร้าใจลุ้นให้เมาคลีเอาตัวรอดไปได้เช่นกัน

The Jungle Book
เมาคลี กับ ลูอี้

แม้ว่าบางช่วงของหนังจะเดินเรื่องแบบเฟดดำและเข้าสู่ซีนใหม่หลายหน ทำให้โดยรวมหนังมีช่วงแผ่วไปบ้าง แต่ยังดีที่งานรายละเอียดภาพเข้ามาช่วยเอาไว้ อาจไม่ถึงกับร้องว้าวในใจ แต่เป็นงานที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย

สุดท้าย การเดินทางของเมาคลีที่เรารู้จักมานานแล้ว ก็คงจะทำให้หลายหนมองเห็นแง่มุมอะไรกลับไปได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของมิตรภาพ ความสามัคคี ความรู้บุญคุณ สุดท้ายก็คงเป็นความรู้จักตัวเอง

ที่ทำให้เราไม่เหมือนใคร และเอาตัวรอดได้ในทุกๆ ที


ชื่อภาพยนตร์: The Jungle Book / เมาคลีลูกหมาป่า
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jon Favreau
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Justin Marks (screenplay), Rudyard Kipling (book)
นักแสดงนำ: Neel Sethi, Bill Murray, Ben Kingsley, Idris Elba, Lupita Nyong’o, Scarlett Johansson, Giancarlo Esposito, Christopher Walken
ความยาว: 105 นาที
แนว/ประเภท: Adventure, Drama, Family, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 13 เมษายน 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Fairview Entertainment, Moving Picture Company (MPC), Walt Disney Pictures

เมาคลีลูกหมาป่า

The Jungle Book - 8

8

The Jungle Book

แม้ว่าบางช่วงของหนังจะเดินเรื่องแบบเฟดดำและเข้าสู่ซีนใหม่หลายหน ทำให้โดยรวมหนังมีช่วงแผ่วไปบ้าง แต่ยังดีที่งานรายละเอียดภาพเข้ามาช่วยเอาไว้ อาจไม่ถึงกับร้องว้าวในใจ แต่เป็นงานที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ