ได้ยินข่าวคราวของหนังไทยเรื่องใหม่ของ นนทรีย์ นิมิบุตร มาสักพักละ และด้วยภารกิจบางอย่าง ทำให้กว่าจะได้ดูก็ต้องล่าช้ามาจนถึงวันนี้ ค้นหาชื่อใน IMDb พบมีชื่อฝรั่งว่า ‘Once Upon a Star’ แต่แน่นอน สำหรับคนไทย ต้องจดจำชื่อไทย ‘มนต์รักนักพากย์’ หนังไทยที่เล่าเรื่องของไทยในยุคปี พ.ศ. 2513
หลายเสียงเรียกหนังเรื่องนี้ว่าเป็น จดหมายรักถึงหนังไทย เล่าถึงหนังไทยยุคเฟื่องฟู และยุคของการเปลี่ยนแปลง-เปลี่ยนผ่านจากยุคหนังเงียบสู่ยุคหนังพูด นอกจากนี้ มันยังเน้นเล่าไปถึงพระเอกไทยที่กลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ผู้ที่จากไปรวดเร็วเกินกว่าใครจะทันคาดคิด เป็นหนังที่แทบไม่มีใครคิดสร้างกันแล้วในปัจจุบัน เพราะมันต้องใช้แรงผลักดันมากมาย โดยเฉพาะงานสร้างที่ต้องพาคนดูกลับไปยังวันเวลานั้นอย่างเหมือนจริงที่สุด ต้องทำให้คนดูในยุคสมัยนี้อินไปกับเรื่องราวในยุคเก่าๆ ให้ได้มากที่สุด
เพราะยังไงคนที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นก็ต้องอินมากมายอย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว
เรื่องย่อหนัง ‘มนต์รักนักพากย์’
หัวหน้ามานิตย์ (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ จากหนังเรื่อง ‘มะลิลา’ และ ‘บ้านเช่า..บูชายัญ’), ไอ้เก่า (จิรายุ ละอองมณี จากหนังเรื่อง ‘Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย’ และ ซีรีส์เรื่อง ‘365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ’) และลุงหมาน (สามารถ พยัคฆ์อรุณ จากหนังเรื่อง ‘ไชยา’ และ ‘ฅนไฟบิน’) สามคนที่เป็นลูกจ้างบริษัทขายยา ยังคงดิ้นรนเฮือกสุดท้ายกับชีวิตของการเป็นคนฉายหนังเร่ พวกเขาเดินทางไปในหลายจังหวัด เพื่อฉายหนังโดยมีมานิตย์เป็นนักพากย์หนึ่งเดียวที่พากย์ทุกเสียง ด้วยรถคันเก่า หนังที่สู้เขาไม่ได้ ขายยาแทบไม่เข้าเป้า แถมยังหาคนมาดูแทบไม่ได้ แต่เขากำลังจะแหกกฎที่คร่ำครึของบริษัท
บริษัท โอสถเทพยดา ที่มานิตย์ทำงานอยู่ กำลังต้องเผชิญหน้ากับ กัมปนาทภาพยนตร์ เจ้าใหญ่หนังล้อมผ้า กับยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนไป คนดูกำลังต้องการดูสิ่งใหม่ หัวหน้าหน่วยระดับอาวุโสอย่างมานิตย์ไม่ต้องการจะทรยศในอาชีพที่เขารัก จนได้มาพบกับ เรืองแข (หนึ่งธิดา โสภณ จากหนังเรื่อง ‘กวนมึนโฮ’) หญิงสาวผู้ไม่ยอมบอกประวัติแต่ความสามารถทางการพากย์ดีเยี่ยม และยอมที่จะร่อนเร่ไปกับผู้ชายทั้งสาม
รีวิวหนัง ‘Once Upon A Star‘
หนังที่เต็มไปด้วยความฝัน หัวหน้ามานิตย์ ยังอยู่กับคณะเร่ฉายหนังและขายยา ที่องค์ประกอบต่างๆ ทำให้ฝันของเขาเต็มไปด้วยขวากหนาม การเดินทางไปกับหน่วยเร่ครั้งนี้อาจเป็นหนสุดท้ายแล้วก็ได้ ถ้าเขายังไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์ความคิดของตนเองสักที
ไอ้เก่า เองก็มีความฝัน มันอยากจะเป็นนักแสดงเหมือนอย่างมิตร ชัยบัญชา ไอดอลของมันบ้าง คาแรกเตอร์ไอ้เก่านั้น เป็นตัวแทนของเด็กหนุ่มที่มองเห็นความล้าหลังของสิ่งที่มานิตย์ทำ แม้พูดจากวนใจแต่ก็ขึ้นเหนือลงใต้ร่วมกับหัวหน้ามาโดยตลอด คอยกระทุ้งให้ปรับวิธีการขาย ทว่าพอหัวหน้าเลือกจะแหกกฎด้วยการพาเรืองแขขึ้นรถร่วมร่อนเร่ไปกับก๊วนฉายหนัง ไอ้เก่าก็เริ่มหัดพากย์หนังบ้าง ยอดขายยาก็ดูดีขึ้นมาก ความหวังที่จะหนังขายยาจะได้ไปต่อก็มีมากขึ้น แต่เดิมพันทุกอย่างต้องแลกมากับสิ่งที่คาดไม่ถึง
คนดูก็เหมือนได้กลับมาเจอ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ อีกครั้ง ได้เห็นหน้าหวานและเสียงใสๆ ที่ทำให้เธอสวมบทบาทเป็นเรืองแขได้อย่างไร้ที่ติ เรืองแขเป็นหญิงสาวที่ฝันจะเป็นเลขานุการแม้มีความสามารถด้านการพากย์ การร่วมคณะไปด้วยคือการแหกกฎของบริษัทกลายเป็นหนึ่งความเสี่ยงของหัวหน้ามานิตย์ ขณะเดียวกัน ก็มีเรื่องดราม่าความรักที่โผล่เข้ามาที่ทำให้หนทางดิ้นรนเฮือกสุดท้ายต้องยุ่งยากเพิ่มเข้าไปอีก
นอกเหนือที่ว่ามา หนังยังมีตัวละครสมทบอย่างพี่วิเชียร ซูเปอร์สายเหนือ (แสดงโดย ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย จากหนังเรื่อง ‘แมนสรวง’) ที่เป็นเสมือนผู้คุมกฎ และ ศักดิ์ (ณัฐ ศักดาทร) ที่เป็นนักพากย์หนังอีกคณะที่เป็นคู่แข่งสำคัญของหัวหน้ามานิตย์ด้วย
หนังหยิบเอาบรรยากาศเก่าๆ กลับมา แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายแพทจะเกิดเสียอีก ไม่ว่าจะเป็น เพลงเก่าที่ประกอบหนังและร่วมอยู่ในเรื่องราว อ้อยควั่นที่เคยได้กินตามงานวัด เบียร์ดำคอหมา โฆษณาทีวี เครื่องพิมพ์ดีด ชื่อยาสมัยก่อน สลากกินแบ่ง เงินตรา ดาราดัง หนังเงียบ หนังเสียง การพากย์สดระหว่างฉาย สภาพบ้านเมืองที่ยังชุกชุมไปด้วยเสือร้ายตามต่างจังหวัด รวมไปถึงโรคซิฟิลิสที่เคยระบาดในช่วงเวลานั้น
งานภาพก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นในหนังเรื่องนี้ จนทุกคนที่ได้ดูต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าเสียดายที่มันไม่ได้ถูกฉายในโรงให้คนไทยได้ดู
ที่ขาดไปไม่ได้ คือหนังเล่าและอ้างอิงถึงดาราหนังระดับซูเปอร์สตาร์ในสมัยนั้นอย่าง มิตร ชัยบัญชา ที่กลายเป็นลมหายใจของคณะเร่ฉายหนัง ทุกคนในคณะเร่ฉายหนังล้วนแล้วแต่รักและชื่นชมเขาอย่างมาก ฉากวาระการจากไปของเขา ต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนที่คลั่งไคล้ (เพราะดันเกิดช้าไปมาก) แต่ก็หลั่งน้ำตาไปกับความสูญเสียอย่างไม่อาจหยุดไว้ได้เช่นกัน
แม้บทหนังจะเดินตามสูตรไปบ้าง ไม่มีอะไรเกินคาดเดา ด้วยความตั้งใจจะเล่าล้อไปกับหนังไทยเก่า แต่การหยิบจับความเป็นไทยในยุคก่อนๆ ถือว่าสอบผ่าน กับงานโปรดักชันที่ละเอียด เก็บทุกอย่างในช่วงนั้นกลับมาได้อย่างหมดจด กับบทที่ว่าด้วยมิตรภาพในกลุ่มของคนรักหนังที่มีความฝัน ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ร่วมกันไปจนสุดหนทาง
สิ่งที่ชอบใจอีกอย่างก็คือ ระหว่างการพากย์หนังมันก็เล่าเรื่องไปด้วยนี่แหละ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | มนต์รักนักพากย์ / Mon Rak Nak Pak / Once Upon A Star |
กำกับ | นนทรีย์ นิมิบุตร/Nonzee Nimibutr |
เขียนบท | เอก เอี่ยมชื่น/Ek Iemchuen |
แสดงนำ | เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ, หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ, จิรายุ ละอองมณี, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, มิตร ชัยบัญชา |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
เรท | TV-14 |
ความยาว | 138 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | ไทย |
เข้าฉายในไทย | 11 ตุลาคม 2023 ทาง Netflix |
ผลิต/จัดจำหน่าย | 18 Tanwa, Netflix |
คะแนนหนัง มนต์รักนักพากย์
พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 8.2
การดำเนินเรื่อง - 7.7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.7
เทคนิคงานภาพ และโปรดักชัน - 8.7
8
Mon Rak Nak Pak
หนังไทยที่บอกเล่าถึงช่วงเวลาที่หนังไทยอยู่ในช่วงรุ่งเรือง และอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน เล่าเรื่องของคณะหนังเร่ขายยาที่กำลังดิ้นรนเพื่ออยู่รอดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง พร้อมใส่เรื่องรักดราม่าภายใน และการเดินทางร่วมกันที่สร้างมิตรภาพให้ก่อเกิด งานโปรดักชั่นโคตรดีสมควรได้ฉายโรงด้วยซ้ำ