ภาพยนตร์หนังสือไลฟ์สไตล์

รวม 12 วรรณกรรมญี่ปุ่น ที่กลายเป็นหนังสุดประทับใจ

วรรณกรรมญี่ปุ่น ที่กลายเป็นหนังนั้นมีมากมาย แถมที่แปลไทยก็มีอยู่หลายเล่ม ขอรวบรวมส่วนหนึ่งมาฝากกัน

เอาเข้าจริง ทุกคนคงจะพบว่า วรรณกรรมญี่ปุ่น ที่กลายเป็นหนังนั้นมีมากมายเหลือเกิน ส่วนหนึ่งคงเพราะว่า ในญี่ปุ่นนั้น สนับสนุนงานเขียนเป็นอย่างมาก ทั้งคนญี่ปุ่นเองก็มีไลฟ์สไตล์รักการอ่าน ทำให้มีวรรณกรรมออกมามากมายในแต่ละปี ขันแข่งกันสร้างสรรค์พล็อตที่ชักชวนให้คนอ่านรู้สึกทึ่งในไอเดียและประทับใจไปกับเรื่องราว บ้างก็ชวนสลดใจ เศร้า​ ซึ้ง และบ้างก็ชวนอิ่มเอมใจ จึงไม่แปลกอะไรที่มันจะถูกหยิบมาดัดแปลงให้กลายเป็นหนัง ทั้งแบบคนแสดงและแอนิเมชัน

หลายเรื่องก็เป็นผู้กำกับ-ผู้เขียนบทเองนี่แหละที่พัฒนามันออกมาในรูปแบบหนังสือ ทั้งอาจเพิ่มเติมบางสิ่งที่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดลงในม้วนฟิล์มความยาวราวๆ 2 ชั่วโมง และหลายเรื่องก็อาจจะเคยเป็นวรรณกรรมญี่ปุ่นขายดีมาก่อนที่จะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์

วรรณกรรมญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนัง 12 เล่ม มีเล่มไหนบ้าง

ในแต่ละปี จะมีหนังญี่ปุ่นที่ถูกนำเข้ามาฉายในไทยเป็นสิบๆ เรื่อง และหลายเรื่องในนั้น ก็มีเวอร์ชันหนังสือแปลไทยขายพร้อมๆ กันด้วย นี่คือส่วนหนึ่งของวรรณกรรมญี่ปุ่นที่น่าแนะนำเหล่านั้น

หมายเหตุ: สำหรับใครที่อยากอ่านฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ หาซื้อได้ในร้าน Kinokuniya ครับผม

ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ | I Want to Eat Your Pancreas

ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ ฉบับแปลไทย
‘ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ’ ฉบับแปลไทย


เรื่องราวความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างเขาและเธอ ที่จะทำให้คุณเข้าใจคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ วรรณกรรมญี่ปุ่นเล่มนี้ เริ่มต้นจากนิยายออนไลน์เมื่อปี 2014 ก่อนจะถูกตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มในเดือนมิถุนายนปี 2015 มันเล่าเรื่องราวของชิกะ เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายที่ไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการอ่านหนังสือ กับซากุระ เด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นที่ต่างก็เป็นคณะกรรมการประจำห้องสมุดของโรงเรียน ไม่รู้ว่าชะตาหรือเปล่าที่พาทั้งสองให้ต้องมาผูกพันกันโดยบังเอิญ เมื่อเด็กหนุ่มได้พบไดอารี่เล่มหนึ่งซึ่งเขียนถึงการเจ็บป่วยของซากุระ ทำให้เขาได้ล่วงรู้ความลับว่าเธอเป็นโรคมะเร็งในตับที่พยายามใช้ชีวิตในแบบคนปกติอย่างเข้มแข็ง

มันคือ วรรณกรรมญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนัง ทั้งหนังคนแสดง Kimi no Suizo wo Tabetai และแอนิเมชัน ‘เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน’ แต่ไม่ว่าจะเป็นฉบับไหน ก็ล้วนสร้างความความประทับใจให้กับคนดูทั้งนั้น ไม่บอกก็คงรู้ว่า ถ้าได้อ่านมันผ่านเรื่องราวในหนังสือ จะน่าประทับใจมากมายขนาดไหน

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 君の膵臓をたべたい
ผู้เขียน: Yoru Sumino (โยรุ ซูมิโนะ)
ผู้แปล: ธีราภา ธีรรัตนสถิต
จำนวนหน้า: 338 หน้า
ราคาปก: 345 บาท
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing


เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น | Before the Coffee Gets Cold

เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ฉบับแปลไทย
‘เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น’ ฉบับแปลไทย


วรรณกรรมญี่ปุ่นเรื่องเยี่ยมที่ทำยอดขายได้มากกว่า 8 แสนเล่มทั่วประเทศ เป็นผลงานเดบิวต์เรื่องแรกของ คาวางุจิ โทชิคาซึ ที่ออกสู่สายตาสาธารณชน ได้รับรางวัลจาก Suginami Theatre Festival ครั้งที่ 10 แถมยังถูกสร้างเป็นหนังที่หลายคนประทับใจ เข้าฉายในเดือนกันยายน ปี 2018 เล่าเรื่องราวของร้านกาแฟที่ชื่อ “ฟูนิคูลี ฟูนิคูลา” ที่มีพนักงานเสิร์ฟที่ชื่อ คะซุ กับตำนานที่เล่าขานกันว่า มีเก้าอี้ตัวหนึ่งที่เมื่อใครนั่งแล้วจะสามารถย้อนเวลาได้ แต่ก็มีกฎอันยุ่งยากหลายข้อ เป็นนิยายที่ตั้งคำถามกับเราว่า ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ แต่ไม่ว่าจะทำยังไง อนาคตก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แล้วยังอยากย้อนเวลากลับไปอยู่หรือเปล่า

นิยายเรื่องนี้เล่าผ่านตัวละครอย่าง ฟุมิโกะ ผู้ที่แฟนหนุ่มนัดเจอเธอเพื่อบอกว่าจะไปทำงานที่อเมริกา, เล่าเรื่องของ โคตาเกะ พยาบาลสาวที่มีสามีเป็นอัลไซเมอร์และเธอต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าของเขา เรื่องของ ฮิราอิ พี่สาวผู้หลบหน้าน้องสาวหลังทิ้งกิจการครอบครัวไว้ให้ดูแล และเรื่องของ เค ภรรยาผู้มีร่างกายอ่อนแอของเจ้าของร้านกาแฟที่ตัดสินใจเก็บลูกสาวไว้แม้มันจะนำไปสู่ความตาย ตัวละครทั้งสี่คือผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ตัวนั้นและมุ่งหมายจะย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไข แค่เรื่องย่อก็อยากอ่านเต็มๆ แล้วใช่มั้ยล่ะครับ

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: Before the Coffee Gets Cold
ผู้เขียน: คาวางุจิ โทชิคาซึ (Toshikazu Kawaguchi)
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวนหน้า: 340 หน้า
ราคาปก: 245 บาท
สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์


ผม แมว และการเดินทางของเรา | The Travelling Cat Chronicles

ผม แมว และการเดินทางของเรา ฉบับแปลไทย
‘ผม แมว และการเดินทางของเรา’ ฉบับแปลไทย


บางคนน่าจะเคยได้ดูเวอร์ชันภาพยนตร์ญี่ปุ่นมาแล้ว วรรณกรรมญี่ปุ่นเรื่องนี้จึงอาจคุ้นตาสำหรับพวกเขาเหล่านั้น แต่สำหรับใครหลายคนที่ยังไม่เคยดู นี่คงจะเป็นโอกาสดีที่จะได้รู้จักกับเรื่องราวของเขากับแมวแบบเพียวๆ หนึ่งในผลงานขายดีของนักเขียน Hiro Arikawa วรรณกรรมเล่มนี้ได้รับตีพิมพ์แล้วถึง 16 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย

‘The Travelling Cat Chronicles’ ว่าด้วยการเดินทางของสองชีวิตที่จะแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพอันลึกซึ้ง เล่าเรื่องของแมวจรจัดที่น่าสงสารตัวหนึ่ง มันเจออุบัติเหตุและได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มจิตใจดีอย่าง ซาโตรุ เขาตั้งชื่อให้มันว่า นานะ แม้ว่ามันดูจะไม่ชอบชื่อนี้นักแต่ทั้งสองก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ทว่าหลังอยู่ร่วมกันได้ 5 ปี ซาโตรุก็เริ่มขับรถตระเวณพานานะไปเยี่ยมบรรดาเพื่อนเก่าพร้อมพยายามจะฝากฝังนานะให้อยู่กับเจ้าของใหม่ การเดินทางครั้งนี้จะค่อยๆ คลี่คลายปริศนาบางอย่าง ทั้งเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของ 1 คน 1 แมว

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: The Travelling Cat Chronicles
ผู้เขียน: Hiro Arikawa (ฮิโระ อาริคาว่า)
ผู้แปล: ปิยะวรรณ ทรัพย์สำรวม
จำนวนหน้า: 358 หน้า
ราคาปก: 379 บาท
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing


พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน | Tomorrow I will Date with Yesterday’s You

พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน วรรณกรรมญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนัง
‘พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน’ ฉบับแปลไทย


หลายคนอาจเคยได้ดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง ‘Tomorrow I will Date with Yesterday’s You’ นี้แล้ว และพบว่ามันซึ้งกินใจเหลือเกิน จนอยากจะสัมผัสกับเรื่องราวนี้ผ่านตัวอักษรบ้าง ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยสัมผัสกับเรื่องราวที่สุดแสนประทับใจนี้ ไม่ว่าจะเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่า หรือหากคิดมันคงยากที่จะเป็นไปได้ ยังจะเลือกรักอยู่มั้ย ยังไงก็อยากให้ลองอ่านนิยายสุดฮิตที่ทำยอดขายมากกว่า 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่นเล่มนี้กันดู

หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวความรักที่ใช้เงื่อนไขของเวลามาช่วยดำเนิน เรื่องของนักศึกษาวิทยาลัยศิลปะผู้ที่ตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่งตั้งแต่แรกเห็นหน้าบนขบวนรถไฟ เขาตัดสินใจเดินเข้าไปหาและสารภาพรักกับเธอ สาวสวยจิตใจดีผู้เก็บงำความลับเกินจินตนาการอย่างหนึ่งเอาไว้ และเมื่อเขาได้รู้ในเวลาต่อมาว่า ความรักของทั้งสองนั้นอยู่บนโลกคู่ขนาน เส้นเวลาของพวกเขาเดินไปตรงข้ามกัน นั่นหมายความว่า เขาจะแก่ขึ้นทุกปี แต่เธอจะเด็กลงทุกปีเช่นกัน

นิยายอันหวานซึ้งปนเศร้าที่น่าประทับใจนี้ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์รักสุดโรแมนติกแห่งปี 2017 แต่ถ้าลองอ่านผ่านตัวอักษร ก็รับรองว่าจะได้รับในอีกอรรถรสอย่างแน่นอน

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: Boku wa Asu, Kinou no Kimi to Date Suru
ผู้เขียน: Nanatsuki Takafumi
ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
จำนวนหน้า: 288 หน้า
ราคาปก: 300 บาท
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing


Your Name. | เธอคือ…

Your Name วรรณกรรมญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนัง
‘เธอคือ…’ ฉบับแปลไทย


คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ตอนมันเป็นแอนิเมชันผลงานของ มาโคโตะ ชินไค ‘Your Name’ โด่งดังสร้างปรากฏการณ์ น่าประทับใจระหว่างดู ทั้งยังสร้างรายได้ถล่มทลาย จนคิดว่ามันจะน่าขนาดไหนหากจะสัมผัสความดีงามเหล่านั้นผ่านตัวหนังสือ แถมมันยังทำยอดขายมากถึง 2 ล้านเล่มในญี่ปุ่น

เรื่องราวของเด็กสาวมัธยมปลายจากเมืองชนบทกลางหุบเขาที่ฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตอิสระเสรีท่ามกลางเมืองใหญ่ กับเด็กหนุ่มมัธยมปลายจากโตเกียวที่ฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กสาวมัธยมในเมืองเล็กแสนเงียบสงบ โชคชะตาพาให้สองคนไม่รู้จักชื่อกัน ได้มองโลกผ่านสายตาของกันและกัน ปาฏิหาริย์สลับร่างที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของดาวหางที่มาเยือนโลกในทุก 1,200 ปี

หนังสือนิยายเล่มนี้จะให้ทั้งความเศร้า เหงา ซึ้ง และอิ่มเอมใจ พร้อมกับเพิ่มเติมความเข้มข้นของเรื่องยิ่งกว่าที่ได้ตอนดูหนัง มีทั้งบทสนทนา ความรู้สึกนึกคิด รวมทั้งบรรยากาศสุดโรแมนติก จนเรียกได้ว่า คนอ่านจะต้องเพลิดเพลินและเติมเต็มอารมณ์จนต้องประทับใจอีกครั้งอย่างแน่นอน

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 君の名は。Kimi no Na wa.
ผู้เขียน: Makoto Shinkai (มาโคโตะ ชินไค)
ผู้แปล: ปาวัน
จำนวนหน้า: 232 หน้า
ราคาปก: 275 บาท
สำนักพิมพ์: Phoenix


โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว

โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว ฉบับแปลไทย
‘โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผมและพ่อในบางครั้งคราว’


ภาพยนตร์ดราม่าเรื่องหนึ่งที่ถูกเอ่ยถึงและแนะนำกันตลอดมาก็คือ ‘Tokyo Tower’ ความจริงแล้ว มันเป็นผลงานการเขียนของ Lily Franky นักเขียนและนักแสดงคนดังชาวญี่ปุ่น ที่บอกเล่าเรื่องราวจากชีวิตจริงออกมาได้อย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และลึกซึ้งกินใจอย่างยิ่งครับ หนังสือของเขาเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำถึง 18 ครั้งภายในระยะเวลาครึ่งปี ทำยอดขายกว่า 2 ล้านเล่ม ได้รับการสร้างเป็นละครทีวี ภาพยนตร์ที่ฉายในทีวี และภาพยนตร์ฉายโรงที่กวาดรางวัล Academy Awards ของญี่ปุ่นมาถึง 5 รางวัลด้วยกัน

เป็นวรรณกรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูก เล่าชีวิตของผู้คนต่างจังหวัดที่แสงสีดึงดูดให้เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงโตเกียว การต่อสู้ดิ้นรนและค้นหาตัวตนในเมืองใหญ่ เรื่องราวของ มาคุง เด็กชายขี้โรคที่กลัวพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ได้มาใช้ชีวิตอย่างอิสระในเมืองหลวง จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขาต้องฉุกคิดถึงการกระทำของเขาที่มีต่อแม่ของตนเอง ด้วยสำนวนที่เป็นเอกลักษณ์ แฝงไปด้วยอารมณ์ขัน จนใครที่อ่าน ก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวิธีที่ตนปฏิบัติกับแม่ของตัวเอง

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 東京タワー ~オカンとボクと、時々、オトン
ผู้เขียน: Lily Franky
ผู้แปล: ทิพย์วัลย์ ยามาโมโตะ
จำนวนหน้า: 370 หน้า
ราคาปก: 315 บาท
สำนักพิมพ์: Piccolo


สุดท้ายและตลอดไป | The Last 10 Years

สุดท้ายและตลอดไปวรรณกรรมญี่ปุ่น ฉบับแปลไทย
‘สุดท้ายและตลอดไป’ ฉบับแปลไทย


วรรณกรรมญี่ปุ่นอีกเรื่องที่นำมาจากชีวิตจริงของผู้เขียน และถูกดัดแปลงนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่องราวความรักโรแมนติกที่เจือด้วยความเศร้าสะเทือนใจ ทั้งยังกลายเป็นหนังรักอันดับหนึ่งแห่งปี 2022 ‘The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป’ ที่นำแสดงโดย นานะ โคมัตสึ และ เคนทาโร่ ซาคากุจิ

เรื่องราวของมัตสึริ หญิงสาวที่รู้ตัวว่าป่วยด้วยโรคที่ไม่อาจรักษาได้ แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าชีวิตของเธอจะเหลืออยู่เพียงไม่เกิน 10 ปี แม้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างไร้ความคาดหวังแต่เธอก็ไม่ได้สิ้นหวัง เธอพยายามจะยิ้มให้ได้ในทุกวัน และตัดสินใจจะไม่รักใครอีก แต่เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาเอ่ยปาก เธอกลับเลือกจะตอบรับไป ทั้งสองคนกำลังทำให้อีกฝ่ายเข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 余命10年
ผู้เขียน: Kosaka Ruka (รูกะ โคซากะ)
ผู้แปล: ปิยะวรรณ ทรัพย์สำรวม
จำนวนหน้า: หน้า
ราคาปก: 345 บาท
สำนักพิมพ์: Avocado Books


ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว | If Cats Disappeared from the World

ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว วรรณกรรมญี่ปุ่น ฉบับแปลไทย ที่มีการนำมาสร้างเป็นหนัง
‘ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว’ ฉบับแปลไทย


สำหรับทาสแมวทั้งหลาย คงจะพลาดหนังเรื่องนี้ไปไม่ได้ ‘If Cats Disappeared from the World’ ที่นำแสดงโดย ทาเครุ ซาโต้ หนังสร้างหนังสือชื่อเดียวกัน แต่ชื่อไทยในเวอร์ชันหนังสือใช้‘ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว’ เป็นนิยายที่ขายดีทำยอดขายไปกว่า 1.3 ล้านเล่มในญี่ปุ่น

เรื่องราวของบุรุษไปรษณีย์หนุ่มวัย 30 ปีที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ก่อนจะได้รู้ว่า ตนจะต้องตายภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้เขาจะสิ้นหวัง แต่เขาก็ยังมี กะหล่ำ แมวเพื่อนซี้ที่อยู่กับเขา แต่แล้วก็กลับมี ‘ปีศาจ’ ตนหนึ่งที่ยื่นข้อเสนอให้เขายอมแลกลมหายใจที่จะยืนยาวขึ้นที่ละวัน กับสิ่งต่างๆ ในชีวิตทีละอย่างที่จะหายไปจากโลกอย่างถาวร ชายคนนี้ตอบตกลง โดยไม่ทันได้คิดว่า การทำเช่นนั้นหมายถึงสิ่งสุดท้ายที่เขารักที่สุดก็จะหายไป แล้วเขาจะใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างไร หนังสือที่เล่าเรื่องอันเรียบง่ายแต่ส่งแรงสั่นสะเทือนหัวใจได้ขั้นสุด และจะหยุดตัวเองไม่ให้อ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างไรล่ะครับ

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: If Cats Disappeared from the World
ผู้เขียน: Genki Kawamura
ผู้แปล: ดนัย คงสุวรรณ
จำนวนหน้า: 224 หน้า
ราคาปก: 259 บาท
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing


จดหมายรักฉบับสุดท้าย | Last Letter

จดหมายรักฉบับสุดท้าย วรรณกรรมญี่ปุ่นแปลไทย
‘จดหมายรักฉบับสุดท้าย’ วรรณกรรมญี่ปุ่นแปลไทย


ชุนจิ อิวาอิ คือชื่อที่นักดูหนังญี่ปุ่นเชื่อใจ เขาเป็นทั้งคนที่เขียนบทและกำกับหนัง แต่นอกเหนือจากนั้น ก็ยังนับว่าเขาเป็นนักเขียนนิยายมีชื่ออีกด้วย ‘Last Letter’ หรือชื่อไทย ‘จดหมายรักฉบับสุดท้าย’ เล่าเรื่องราวความรักของ ยูริ แม่บ้านที่กลับไปร่วมงานศพของมิซากิพี่สาวที่บ้านเกิด และได้พบกับ อายูมิ หลานสาวที่ไม่ได้เจอกันมานาน อายูมิยังทำใจยอมรับการตายของแม่ไม่ได้จึงพร้อมจะเปิดอ่านจดหมายฉบับสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ก่อนตายจาก

ต่อมา ยูริได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยมัธยมแทนมิซากิเพื่อแจ้งข่าวการตาย แต่กลับถูกคนอื่นเข้าใจว่าเป็นพี่สาว เธอได้พบกับเคียวชิโร ผู้เป็นทั้งนักเขียนนิยายและผู้เป็นรักแรกของตนเอง แต่เธอรู้ดีว่าเขาคือคนที่มีความรู้สึกอันลึกซึ้งกับมิซากิ ก่อนที่เธอจะติดต่อกับเขาทางจดหมายในชื่อพี่สาว และเรื่องราวก็เริ่มเข้าไปพัวพันกับอายูมิและลูกสาวของเธอเอง

วรรณกรรมญี่ปุ่นเล่มนี้เคยเป็นหนังที่เข้าฉายในไทยช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 และสร้างความประทับใจให้กับคอหนังญี่ปุ่นอย่างมากมายมาแล้ว ครั้งนี้ เราจะได้สัมผัสมันในรูปแบบหนังสือที่จะพาเราโลดแล่นไปพร้อมจินตนาการของตัวเองกันละ

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: ラストレター
ผู้เขียน: Shunji Iwai
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวนหน้า: 229 หน้า
ราคาปก: 259 บาท
สำนักพิมพ์: Bibli


ดอกไม้ไฟต้องมองจากด้านล่างหรือด้านข้าง

ปกหนังสือ ดอกไม้ไฟต้องมองจากด้านล่างหรือด้านข้าง เวอร์ชันแปลไทย
‘ดอกไม้ไฟต้องมองจากด้านล่างหรือด้านข้าง’


ไลท์โนเวลที่เล่าเรื่องรักอุ่นๆ เรื่องราวของการเดินทางย้อนเวลาที่พาให้หวนนึกถึงรักแรก โนริมิจิ เป็นเด็กหนุ่มวัยมัธยมต้นที่อาศัยอยู่ในโมชิโมะ อันเป็นเมืองท่าเล็กๆ ในชนบทอันห่างไกล วันหนึ่ง เขากับเพื่อนก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า แท้จริงนั้น ดอกไม้ไฟมันกลมหรือแบนกันแน่ จึงได้ตกลงนัดกันกับเพื่อนเพื่อจะไปดูดอกไม้ไฟจากด้านข้างกันที่ประภาคาร แต่จู่ๆ นาซึนะ เพื่อนสาวที่เขาแอบชอบก็มาชักชวนให้เขาหนีออกจากเมืองไปด้วยกัน

ไม่ว่าคุณจะเคยดูเวอร์ชันแอนิเมชัน ‘Fireworks’ หรือไม่ การได้อ่านเรื่องราวจากตัวหนังสือและใช้จินตนาการของตนเอง ก็จะทำให้คุณได้พบความรู้สึกอิ่มและอินที่มากกว่า เพราะไม่ว่าใครต่างก็เคยมีรักแรกด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจย้อนนึกถึงวันวานที่เคยกินไอติม ปั่นจักรยาน หรือวันไปเล่นน้ำตอนหน้าร้อนกับเพื่อนๆ แถมนิยายสั้นๆ เรื่องราวยังเชื่อมโยงเอาปริศนาแห่งการย้อนเวลากับเรื่องดอกไม้ไฟได้อย่างแนบเนียนอีกต่างหาก

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom?
ผู้เขียน: Shunji Iwai, Hitoshi Ohne
ผู้แปล: Pmc
จำนวนหน้า: หน้า
ราคาปก: บาท
สำนักพิมพ์: PHOENIX


“รัก” พาตัว | Wandering

วรรณกรรมญี่ปุ่น รักพาตัว ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนัง
ปกหนังสือแปลไทย “รัก” พาตัว


หนังสือเล่มนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘The Wandering Moon’ นิยายที่บอกเล่าความสัมพันธ์ของคนสองคนที่สังคมไม่ให้อภัย ไม่ก็ไม่อาจให้อภัย แม้มันจะเป็นความสัมพันธ์อันงดงาม เรื่องราวที่ชวนโศกซึ้งตรึงใจ จากผลงานการเขียนของ นางิระ ยู ที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นในชื่อไทย ‘รักพาตัว’

มันเป็นเรื่องของซาราสะ เด็กหญิงอายุ 9 ปีที่มักจะคิดอะไรต่างไปจากเพื่อนๆ เสมอ หลังพ่อเสียชีวิต แม่ไปอยู่กับคู่รักใหม่ ซาราสะจึงไปอาศัยอยู่ป้าและพบเจอกับปัญหาบางอย่างทำให้เธอไม่อยากอยู่บ้าน จึงไปนั่งอ่านหนังสือในสวนสาธารณะ จนวันหนึ่ง ฝนตก เธอได้เจอกับฟูมิ นักศึกษาชายวัย 19 ปีที่ชวนเธอไปบ้าน แม้จะลังเลใจแต่เธอเลือกจะติดตามเขาไป แล้วเธอก็ได้พบว่าบ้านของฟูมิเป็นสถานที่ที่เธอจะได้ทำทุกสิ่งตามใจ เธอดูมีความสุขยิ่ง ขณะที่ฟูมิเอง เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างเคร่งครัด เมื่อได้อยู่กับซาราสะ เขารู้สึกแปลกใหม่เมื่อมองเห็นเธอกินไอศกรีมแทนข้าว แต่แล้ว ฟูมิกลับถูกจับและถูกขังคุกนานถึง 15 ปี หลังพ้นโทษ ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง แต่ต่างคนต่างคนข้างๆ ของตนอยู่ การพบกันครั้งนี้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: 流浪の月
ผู้เขียน: นางิระ ยู
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวนหน้า: หน้า
ราคาปก: 319 บาท
สำนักพิมพ์: Daifuku-Lit (ไดฟุกุ-ลีท)


วันนั้นฉันเจอเพนกวิน | Penguin Highway

วันนั้นฉันเจอเพนกวิน วรรณกรรมญี่ปุ่นที่กลายเป็นหนัง
‘วันนั้นฉันเจอเพนกวิน’ ฉบับแปลไทย


นิยายที่จะพาเราไปสำรวจความเป็นเด็กในใจเราอีกครั้ง พาเราออกไปเรียนรู้จักวิถีแห่งธรรมชาติ มิตรภาพจากเพื่อน การเติบโตรวมทั้งเรื่องความรัก ‘Penguin Highway’ เล่าเรื่องของอาโอยามะ เด็กชายวัยประถมที่ชื่นชอบการจดบันทึกทุกสิ่งที่พบเห็นหรือสงสัย วันหนึ่ง เขาได้พบเจอเหล่าเพนกวินมากมายที่ปรากฏตัวขึ้นในเมืองที่เขาอาศัยอยู่ สร้างความประหลาดใจและงุนงงให้กับผู้คน อาโอยามะจึงร่วมกับเพื่อนออกสิบหาความจริงของเหล่าเพนกวิน จนได้รู้ว่าพี่สาวคลินิกหมอฟันที่เขาแอบชอบเธอคือคนที่สามารถเปลี่ยนสิ่งของเป็นเพนกวินได้ แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเธอจึงมีความสามารถเช่นนั้น ก่อนที่มันจะพาเขาไปพบกับปริศนาที่น่าอัศจรรย์

สัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนได้ทั้งในรูปแบบหนังสือ หรือจะเสพมันในแบบแอนิเมชันสุดประทับใจในชื่อเดียวกัน ซึ่งหาชมกันได้ที่ VIPA

ข้อมูลหนังสือ
แปลจากหนังสือ: Penguin Highway ペンギン・ハイウェイ
ผู้เขียน: Tomihiko Morimi
ผู้แปล: หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
จำนวนหน้า: 352 หน้า
ราคาปก: 349 บาท
สำนักพิมพ์: Bibli


และก็แน่นอนแหละ ยังมีวรรณกรรมญี่ปุ่นอีกมากมายที่กลายมาเป็นภาพยนตร์คนแสดงและแอนิเมชัน หลายเรื่องก็ได้รับการนำมาแปลเป็นเวอร์ชันภาษาไทยให้นักอ่านบ้านเราได้เสพตัวหนังสือกันไปแล้ว แต่ก็ยังมีอีกมากมายที่รอการแปล หรือรอการนำมาสร้างเป็นหนังให้เราได้ดูกันอยู่ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ดูหนังก่อนแล้วหันไปอ่านหนังสือ หรืออ่านก่อนแล้วตามไปดูหนัง ทั้งสองสิ่งต่างมีข้อเด่นข้อด้อยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจริตและเวลาของแต่ละคนก็แล้วกันนะครับ

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ