ภาพยนตร์

รวม 10 หนังจากหนังสือดัง ที่ดัดแปลงสร้างจนรายได้ปัง!

มีหลายเหตุผลที่ทำให้หนังที่สร้างจากหนังหลายเรื่องเข้าขั้นปัง แต่บางเรื่องก็แผ่วในภาคต่อๆ มาเช่นกัน

คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พื้นฐานอย่างหนึ่งของความสำเร็จระดับโลกของหนังแต่ละเรื่อง นั้นคือการต่อยอดสร้างมาจากวรรณกรรม-นิยายชื่อดัง ด้วยหลายเหตุผลที่ว่า มันมีกลุ่มแฟนหนังสือกลุ่มใหญ่เลยแหละที่ชื่นชอบให้งานเขียนเหล่านี้อยู่ พวกเขาก็ย่อมจะคาดหวังความปังเมื่อมันกลายเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ เมื่อหนังเข้าฉาย พวกเขาก็ต้องตามไปดู แม้หลายเรื่องจะแป้กไปไม่รอด แต่หลายเรื่องกลับทำผลงานได้ดี วันนี้ เลยจะลองมารวบรวม หนังจากหนังสือดัง สัก 10 เรื่องแถมรายได้ยังปังอีกด้วยกันดูดีกว่า

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้หนังจากหนังสือหลายเรื่องออกมาสุดปังนั้นก็อาจจะด้วยเหตุผลว่า หนังบางเรื่องมีความเป็นแฟนตาซี พึ่งพาซีจีเป็นสำคัญ มีความเป็นแอคชันในสัดส่วนสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปชื่นชอบ นอกจากนี้ บางเรื่องก็ยังดัดแปลงบทไว้ได้ดี ไม่หลีกหนีหัวใจสำคัญที่ผู้เขียนวางไว้ในเวอร์ชันหนังสือ อีกทั้งการแบ่งสร้างเป็นหลายภาคก็ยิ่งช่วยให้หนังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะคนที่ติดตามภาคแรกมาก่อนแล้ว ก็ย่อมต้องตามต่อในภาคสอง และเมื่อตามมาหลายภาคก็ไม่พ้นจะต้องติดตามกันไปจนถึงภาคจบ แต่แม้จะส่งผลให้หนังสร้างรายได้มหาศาล แต่ก็มีหลายเรื่องที่โดดเด่นมากในภาคแรก แต่มาแผ่วในภาคถัดๆ มาเช่นกัน

คราวนี้ ก็ได้เวลามาไล่กันทีละเรื่องแล้วว่า ในบรรดาหนังจากหนังสือเหล่านั้น มีเรื่องอะไรบ้างที่อยู่ในข่ายนี้


01 | Harry Potter | แฮร์รี่ พอตเตอร์

ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนที่ขายดิบขายดีติดอันโลก ผลงานของนักเขียนชื่อก้องโลก J.K. Rowling ที่ถูกดัดแปลงเป็นหนังถึง 8 ภาคด้วยกัน ‘Harry Potter’ เรื่องราวของโลกเวทมนตร์ที่ทับซ้อนอยู่กับโลกของเรา เรื่องที่เล่าถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ พ่อมดฝึกหัดที่เล่าเรียนอยู่ในฮอกวอตส์ ที่ชีวิตของเขาต้องพัวพันอยู่กับพ่อมดตัวร้ายในอดีตที่กำลังทำทุกอย่างเพื่อจะกลับมาก่อเหตุใหญ่

Harry Potter หนังจากหนังสือดัง ที่ทำรายได้มหาศาลทั่วโลก แถมยังมีถึง 8 ภาคอีกต่างหาก
Emma Watson, Daniel Radcliffe และ Rupert Grint สามนักแสดงนำ

เริ่มภาคแรกด้วย ‘Harry Potter and the Sorcerer’s Stone แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์’ ก็ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 1.01 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว และก็เก็บรายได้มาทุกภาค จนมาถึงภาคสุดท้าย ‘Harry Potter and the Deathly Hallows II’ ที่ทำรายได้ไปถึง 1.34 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เรียกว่าปังก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ


02 | The Lord of the Rings | อภินิหารแหวนครองพิภพ

ถ้าจะให้นึกถึงหนังจากวรรณกรรมที่อยู่ในดวงใจ นี่อาจเป็นชื่อแรกของใครหลายคน ‘The Lord of the Rings’ คือหนังไตรภาคแห่งความสำเร็จของ Peter Jackson ชายผู้เพิ่งได้รับโอกาสในการทำหนังฟอร์มยักษ์ เรื่องเล่าที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ โฟรโด หนุ่มฮอบบิท ชนเผ่าที่รักสงบแต่ต้องเดินทางสุดไกลฝ่าความลำบากและอันตรายต่างๆ นานา เพื่อคืนและทำลายแหวนสุดอันตรายลงในภูเขาไฟ เรื่องราวที่สร้างจากจินตนาการอันบรรเจิดของ J.R.R. Tolkien

หนังจากหนังสือดัง อภินิหารแหวนครองพิภพ
ทีมฮอบบิท ในหนัง ‘อภินิหารแหวนครองพิภพ’

หนังเริ่มต้นขึ้นในปี 2001 กับ ‘The Fellowship of the Ring‘ ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 898 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่ปีต่อมา จะตามติดมาทันทีกับภาค ‘The Two Towers’ ซึ่งก็ทำรายได้ดีอย่างต่อเนื่องที่ 948 ล้านเหรียญสหรัฐ ปิดท้ายด้วยภาคสาม ‘The Return of the King’ ในปีต่อมา กวาดรายได้ทั่วโลกไป 1.15 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว


03 | The Hobbit | เดอะฮอบบิท

เมื่อพูดถึง LOTR แล้วจะพูดถึงอีกเรื่องไปไม่ได้ ผลงานจาก J.R.R. Tolkien อีกเช่นกัน กับหนังจากหนังสือที่เล่าในเชิง prequel ของไตรภาคสุดปัง ที่ยังคงเป็นผู้กำกับ Peter Jackson คนเดิมที่รับหน้าที่ควบคุมทั้งสามภาค ดั้งเดิมเป็นหนังสือเล่มหน้าเพียงเล่มเดียว แต่ถูกเล่าขยายกลายเป็นไตรภาค เรื่องราวของ บิลโบ แบ็กกินส์ ชาวฮอบบิทผู้เดินทางทางไกลร่วมกับสหายและพ่อมดแกนดาล์ฟในดินแดนมิดเดิลเอิร์ธ ที่ต่อมาก็ได้ต่อสู้กับมังกรยักษ์นามสม็อก และพบเจอกับทรัพย์สมบัติกองมหึมาที่กลายเป็นภาพจำของหนัง

Martin Freeman กับบทบาท บิลโบ แบกกินส์ ในหนังไตรภาค ‘The Hobbit’

เริ่มต้นด้วย ‘The Hobbit: An Unexpected Journey’ ในปี 2012 ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 1.02 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามติดด้วย​ ‘The Desolation of Smaug’ ในปี 2013 ทำรายได้ 959 เหรียญสหรัฐ และภาคสุดท้าย ‘The Battle of the Five Armies’ ในปี 2013 ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 962 ล้านเหรียญสหรัฐ


04 | The Hunger Games | เกมล่าเกม

ถ้าจะถามว่า หนังดิสโทเปียจากหนังสือเรื่องไหนที่อยู่ในใจคนมากที่สุด คือหนีไม่พ้นเรื่องนี้ ‘The Hunger Games’ อาจเรียกได้ว่าเป็นตัวจุดประกายให้มีการสร้างหนังที่หนังสือขายดีตามๆ กันมา ผลงานของนักเขียนนาม Suzanne Collins ที่เล่าเรื่องของ แคทนิส เอเวอร์ดีน ผู้ที่เกิดในยุคที่แผ่นดินถูกแยกออกเป็น 13 เขตปกครองหรือพาเน็ม โดยมีแคปปิตอลเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางที่จะจัดการแข่งขันเพื่อเตือนให้ทุกคนรับรู้ถึงอำนาจและไม่ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านพวกเขา แคทนิสอาสาเข้าร่วมแข่งขันและก่อนเธอจะเปลี่ยนแปลงพาเน็มไปตลอดกาล

Jennifer Lawrence กับบทบาท แคทนิส เอเวอร์ดีน ในหนังจากหนังสือ ‘The Hunger Games’

ภาคแรกของเกมล่าชีวิตนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 กับ ‘The Hunger Games’ ที่รายได้ทั่วโลกไปที่ 694 ล้านเหรียญสหรัฐ พอมาภาคสอง ‘The Hunger Games: Catching Fire’ ก็ทำรายได้ไปอีก 865 ล้านเหรียญสหรัฐ หนังทำรายได้ดี จนสตูโอตัดสินใจแบ่งภาคสุดท้ายขยายให้กลายเป็นสองภาคย่อย แต่ก็เหมือนหนังกำลังเข้ามาสู่ช่วงที่โลกเริ่มเบื่อ ทำให้ ‘Mockingjay – Part 1’ ในปี 2014 และ ‘Mockingjay – Part 2’ ทำรายได้ทัวโลกไปได้ที่ 755 และ 658 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ


05 | Fifty Shades of Grey | ฟิฟตีเชดส์ออฟเกรย์

นิยายแนวอีโรติกโรแมนซ์ ผลงานจากนักเขียนชาวอังกฤษ E. L. James เรื่องนี้ เล่าถึงความสัมพันธ์อันแสนลึกซึ้งและวาบหวามของสาวที่เพิ่งจบการศึกษามาอย่าง อนาสตาเซีย สตีล กับบอสหนุ่มสุดหล่อเกินห้ามใจอย่าง คริสเตียน เกรย์ ด้วยความที่มันเป็นนิยายที่ตัวละครมีพฤติกรรม BDSM เมื่อมันโด่งดังติดอันดับระดับเบสต์เซลเลอร์ มันจึงถูกหยิบมาดัดแปลงสร้างเป็นหนังอย่างไม่ต้องสงสัย แค่ภาคแรก ‘Fifty Shads of Grey’ ที่เป็นการกำกับของ Sam Taylor-Johnson ก็สร้างเสียงร่ำลือกันไปเพียบแล้ว แต่ดูเหมือนกับหนังจะไม่อาจสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้เช่นที่เป็นในเวอร์ชันหนังสือ กระแสตอบรับจึงตกต่ำลงเรื่อยๆ

Dakota Johnson และ Jamie Dornan ในหนังจากหนังสือสุดฉาว 'ฟิฟตีเชดส์ออฟเกรย์'
Dakota Johnson และ Jamie Dornan ในหนังจากหนังสือสุดฉาว ‘ฟิฟตีเชดส์ออฟเกรย์’

เริ่มแรกมาก็ดูค่อนข้างดี ‘Fifty Shades of Grey’ กวาดทั่วโลกไปที่ 570 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ดูเหมือนกระแสจะเริ่มแผ่ว ‘Fifty Shades Darker’ ตามมาในปี 2017 แม้จะเปลี่ยนผู้กำกับเป็น James Foley แต่เสียงตอบรับกลับแย่ลง กวาดรายได้ไป 381.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภาคสามอย่าง ‘Fifty Shades Freed’ ในปีถัดมา กวาดรายได้ทั่วโลกไปเพียง 372 ล้านเหรียญสหรัฐ


06 | Twilight Saga | ทไวไลท์

มีนวนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องหนึ่งที่ยังคงถูกพูดถึงอยู่ในปัจจุบัน ผลงานจากนักเขียนชาวอเมริกัน Stephenie Meyer ที่มีอยู่ 4 เล่มด้วยกัน เรื่องราวความรักของ เบลล่า สวอน หญิงสาวที่เป็นมนุษย์กับ เอ็ดเวิร์ด คัลเลน หนุ่มหล่อที่เป็นแวมไพร์ แถมยังมี เจคอป แบล็ก หนุ่มหล่อเข้มที่เป็นมนุษย์หมาป่าเข้ามากวนหัวใจด้วยอีก เรื่องรักหวานๆ ที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของแวมไพร์ต่างกลุ่มต่างความคิด ที่ถูกดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์รวม 5 ภาคด้วยกัน

นักแสดงนำจากหนังชุด 'Twilight Saga'
นักแสดงนำจากหนังชุด ‘Twilight Saga’

ภาคแรกของหนังจากหนังสือเรื่องนี้ ‘Twilight’ (2008) ทำรายได้ทั่วโลกไป 408 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยกัน ส่งผลให้มันได้ไปต่อในภาคต่อมา ‘New Moon’ ในปี 2009 ทำรายได้สูงกว่าภาคแรกเสียที ที่ 711 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคสาม ‘Eclipse’ ในปีถัดมากวาดไป 698 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ต้องปิดท้ายด้วยการแยกเป็นสองภาค และก็เหมือนพวกเขาคิดถูก เพราะ ‘Breaking Dawn – Part 1’ ปี 2011 ทำรายได้ที่ 712 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน ‘Breaking Dawn – Part 2’ ในปี 2012 ทำรายได้ที่ 830 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว


07 | Jurassic Park | จูราสสิค พาร์ก | Jurassic World | จูราสสิค เวิลด์

จากผลงานของนักเขียนชื่อก้องอย่าง Michael Crichton นิยายเรื่อง ‘Jurassic Park’ ที่เขียนไว้ในปี 1990 เรื่องราวการล่มสลายของสวนสนุกคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ใจกลางเกาะแห่งหนึ่งที่มีโชว์สุดพิเศษจากไดโนเสาร์ที่เพาะพันธุ์ขึ้นใหม่จากซากฟอสซิลที่ถูกขุดค้นพบ ก่อนที่เขาจะเขียน ‘The Lost World’ ตามมาในปี 1995 หนังสือทั้งสองเล่มถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดยการกำกับของ Steven Spielberg

ภาพจากหนังชุด 'Jurassic Park'
ภาพจากหนังชุด ‘Jurassic Park’

สำหรับภาคแรกอย่าง ‘Jurassic Park’ นั้น ถูกสร้างขึ้นในปี 1993 ทำรายได้ทั่วโลกไป 1.099 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาคต่อมาอย่าง ‘The Lost World’ เข้าฉายในปี 1997 ทำรายได้ทั่วโลกไป 618.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะมี ‘Jurassic Park III’ ตามมาในปี 2001 เปลี่ยนผู้กำกับเป็น Joe Johnston ซึ่งก็ทำรายได้ไปเพียง 368.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

แต่ตำนานของสวนสนุกของสัตว์โลกล้านปียังไม่จบแค่นั้น เมื่อสตูดิโอคิดจะปลุกไดโนเสาร์ให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง จึงได้มีการสร้างจักรวาลใหม่ให้ชื่อว่า ‘Jurassic World’ ในปี 2015 กวาดไปถึง 1.671 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาคต่อมาเข้าฉายในปี 2018 ชื่อ ‘Fallen Kingdom’ ก็ยังทำเงินต่อเนื่องที่ 1.310 พันล้านเหรียญสหรัฐ และกำลังจะมีปิดท้ายไตรภาคอย่าง ‘Jurassic World Dominion’ ที่เตรียมเข้าฉายในปี 2022 นี้ด้วย


08 | Alice in Wonderland | อลิซในแดนมหัศจรรย์

‘Alice’s Adventures in Wonderland’ มันเคยเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กของ Lewis Carroll ที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1865 เรื่องราวของหญิงสาวนาม อลิซ ที่เกิดพลัดตกลงไปในโพรงกระต่าย แล้วไปเจอกับดินแดนมหัศจรรย์ที่มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดต่างๆ นิทานแฟนตาซีที่ถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ นับร้อยภาษา ทั้งมีการเขียนภาคต่ออย่าง ‘Through the Looking-Glass’ ตามมาในปี 1871 ทั้งถูกนำมาสร้างเป็นเครื่องเล่น แอนิเมชัน และภาพยนตร์คนแสดง และเวอร์ชันที่ทำเงินสูงสุดก็คือ ผลงานการกำกับของ Tim Burton ในปี 2010 นั่นเอง

ภาพจากหนังแฟนตาซีจากหนังสือ 'Alice in the Wonderland'
ภาพจากหนังแฟนตาซีจากหนังสือ ‘Alice in the Wonderland’

ไม่น่าเชื่อว่า ‘Alice in Wonderland’ ในปี 2010 แค่ภาคเดียวทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 1.025 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ‘Alice Through the Looking Glass’ ที่กำกับโดย James Bobin ในปี 2016 นั้นทำรายได้ไปเพียง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ


09 | The Jungle Book | เมาคลีลูกหมาป่า

จากวรรณกรรมผลงานของ Rudyard Kipling ที่ถูกดัดแปลงสร้างมาหลายครั้ง แต่ในเวอร์ชันนี้ มันถูกปรับแต่งจนกลายเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ในชื่อ ‘The Jungle Book’ ที่กำกับโดย Jon Favreau เรื่องราวของเมาคลี มนุษย์ตัวน้อยที่เติบโตมาในฝูงหมาป่า เขากำลังถูกเสือเชียร์คานพยายามขับไล่ออกไปจากป่า เด็กน้อยต้องระหกระเหินเดินทางเพียงลำพังโดยได้รับการช่วยเหลือจากเสือดำบากีราและหมีบาลู

ภาพจากหนัง ‘เมาคลีลูกหมาป่า’ เวอร์ชัน 2016

ครั้งนี้เมาคลีถูกบอกเล่าด้วยภาพจริงผสมซีจีในแบบ 3 มิติ ‘The Jungle Book’ ที่เข้าฉายในปี 2016 เพียงภาคเดียวก็สร้างรายได้ทั่วโลกไปถึง 966.5 ล้านเหรียญสหรัฐ


10 | Dune | ดูน

นี่ก็เป็นอีกงานที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้คน แม้จะเป็นวรรณกรรมแนวไซไฟมหากาพย์ที่อยู่มานานด้วยเพราะ Frank Herbert เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1965 มันเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1984 ครั้งนี้ มันถูกนำมาสร้างอีกครั้งโดยได้ Denis Villeneuve เป็นผู้กำกับ ภาคปฐมบทของหนังไซไฟอนาคตอันไกลโพ้น ที่มีสองตระกูลทำสงครามบนดาวทะเลทราย ชายหนุ่มผู้อยู่ในคำทำนาย เขามีความสามารถในการมองเห็นอนาคต และฝันถึงหญิงสาวอีกคนอยู่เรื่อยๆ สิ่งที่เราต้องติดตามคือ อนาคตของเขาจะเป็นเทพผู้ปลดปล่อยตามคำทำนายของนิกายโบราณหรือไม่

Dune เป็น หนังจากหนังสือดัง อีกเรื่องหนึ่ง
Timothée Chalamet และ Zendaya ในหนังอลังการมหากาพย์ ‘ดูน’

เวอร์ชันนี้จะถูกเล่าแบ่งเป็นสองภาค โดย‘Dune’ ภาคแรกในปี 2021 ที่คว้าไปถึง 6 รางวัลออสการ์นั้น ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ น่าสนใจว่า ‘Dune Part Two’ ที่กำลังสร้างอยู่จะทำรายได้ไปสักเท่าไหร่


ในความเป็นจริง โลกนี้ มันน่าจะมีหนังมากกว่า 10 เรื่องอยู่แล้วที่เป็นหนังจากหนังสือและประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ ขอให้เข้าใจว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งและเป็นปกติที่อาจมีบางเรื่องที่เข้าตาคุณแต่ไม่ได้ถูกนำมารวมไว้ในนี้ด้วยนะครับ

อ่อ แถมสักหนึ่งก็แล้วกัน


The Maze Runner | เมซ รันเนอร์

นี่ก็ หนังจากหนังสือดัง ที่สร้างกันมากในช่วงเดียวกับเกมล่าชีวิต ‘The Maze Runner’ หนังดิสโทเปียหลายภาคที่ดัดแปลงจากสร้างจากหนังสือขายดี เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยชีวิตของเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่ถูกกักขังอยู่ในเดอะเกลด ดินแดนคล้ายคุกที่ล้อมรอบด้วยเขาวงกต ก่อนที่ภาคต่อมาจะเล่าเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นที่ออกมาจากเขาวงกตได้ แต่กลับมาเจอกับแดนรกร้างที่เรียกว่า แดนมอดไหม้ พร้อมต้องเผชิญกับเหล่าผู้ติดเชื้อ ก่อนจะได้รู้จักกับกลุ่มลึกลับที่จะมีบทบาทเต็มที่ในภาคที่สาม

Maze Runner หนังจากหนังสือดัง อีกเรื่องหนึ่ง
ภาพจากหนังชุด ‘Maze Runner’

หนังเริ่มต้นเล่าด้วย ‘The Maze Runner วงกตมฤตยู’ ในปี 2014 ทำรายได้ไป 348 ล้านเหรียญสหรัฐ อาจจะไม่ถึงกับปังมากแต่ก็นับว่าไม่เลว ต่อด้วยภาคสอง ‘The Scorch Trials สมรภูมิมอดไหม้’ ในปี 2015 น่าเสียดายที่ทำออกมาด้อยกว่าภาคแรก ทำรายได้ไป 312 ล้านเหรียญสหรัฐ แล้วก็มาถึงภาคที่สามอย่าง ‘The Death Cure ไข้มรณะ’ ในปี 2018 ความล่าช้าเนื่องจากเกิดปัญหาในการถ่ายทำ ทั้งยังออกมาในช่วงที่หนังแนวๆ นี้เริ่มเสื่อมความนิยม ทำให้หนังแผ่วไปพอสมควรเลย และทำรายได้ไป 288 ล้านเหรียญสหรัฐ

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ