‘Kick-Ass’ คือชื่อของหนังสือการ์ตูนจากค่ายอิสระ ที่ มาร์ก มิลลาร์ ได้สร้างสรรค์ร่วมกับศิลปิน จอห์น เอสโรมิตา จูเนียร์ และเปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ได้ท้าทายแฟนๆ ที่อยากรู้อยากเห็นด้วยคำถามง่ายๆ เพียงข้อเดียวว่า “ทำไมถึงไม่มีใครพยายามจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่กันบ้าง” ชายสองคนนี้ได้ตอบคำถามนี้ด้วยการโจมตีที่รุนแรง ตัวละครที่น่าจดจำและบทพูดที่เหมาะเจาะ
หลังจาก ‘Wanted’ หนังจากหนังสือของเขาประสบความสำเร็จระดับบล็อกบัสเตอร์ ก่อนที่จะได้รู้จักกับ ผู้กำกับ แมทธิว วอห์น ผู้กำกับภาคแรกของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เซอร์แตกแหวกแนวเรื่องนี้ มันสามารถทำรายได้จากทั่วโลกไปเกือบ $100 ล้าน และได้พิสูจน์ความสำเร็จของมันเมื่อหนังลงแผ่นดีวีดีและบลูเรย์ จนทำให้มีสาวกผู้ติดตามอยู่ไม่น้อย
บทความนี้ ใช้การปะติดปะต่อจากข้อมูลโน่นนี่นั่น สลับไปกับคลิปจากหนังภาคสอง อ่านบ้าง ดูคลิปบ้าง หวังว่าจะเพลินกันนะครับ
‘Kick-Ass’ ภาคแรกนำเสนอเรื่องราวสุดโลดโผนของ เดฟ ลิซิวสกี้ วัยรุ่นหนุ่มชาวแมนฮัตตันที่ตั้งใจจะกลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่เล่นจริงเจ็บจริง เขาจึงสวมใส่ชุดเว็ทสูทสีเขียวเหลือง และเรียกตัวเองว่า คิกแอส ผู้เข้าถึงจินตนาการของผู้คน และกลายเป็นปรากฏการณ์ออนไลน์ ในไม่ช้า คิกแอสพบว่าเขาไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่เพียงหนึ่งเดียวของเมืองนี้เมื่อเขาได้พบคู่หูดูโอพ่อลูกปราบอธรรม ที่ไม่กลัวตาย แถมยังผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อย่าง บิ๊กแด๊ดดี้และมือสังหารนินจา ฮิทเกิร์ล เมื่อ คิกแอส ได้เข้าไปพัวพันกับภารกิจโค่นอาณาจักรผู้ร้ายของเจ้าพ่อมาเฟีย แฟรงก์ ดีอามิโค่ ฮีโร่ของเราก็ต้องเผชิญกับศัตรูที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง คริส ลูกชายวัยรุ่นของแฟรงก์ ผู้ตั้งฉายาให้ตัวเองว่า เร้ดมิสต์
ความสำเร็จระดับไม่คาดฝันของหนังภาคแรกทำให้ต้องมีการสร้างภาคต่อ แต่ถึงกระนั้นแล้วก็ยังต้องใช้เวลานานถึงสองปีเพื่อให้บทต่อไปของเรื่องนี้เริ่มต้นดำเนินงานสร้าง ทุกอย่างเริ่มต้นในปี 2011 วอห์นได้พบกับ เจฟฟ์ แว็ดโลว์ ผู้กำกับหนัง ‘Cry Wolf’ เพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับโปรเจกต์หนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ ‘Bloodshot’ แว็ดโลว์เป็นคนเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนั้น และวอห์นได้รับการวางตัวให้เป็นผู้กำกับ แต่เพราะภารกิจที่รัดตัว เขาจึงส่งต่อหน้าที่ในงานเขียนบทและกำกับต่อให้กับแว็ดโลว์ ส่วนวอห์นก็กลายมาเป็นผู้อำนวยการสร้าง
5 คลิปจากภาพยนตร์ ‘Kick-Ass 2’
คิกแอส, ฮิทเกิร์ล และเร้ดมิสต์ กลับมาแบบพร้อมหน้าพร้อมตาใน ‘Kick-Ass 2’ ภาคต่อของหนังฮิตแหวกตลาดประจำปี 2010 หลังจากความห้าวหาญของคิกแอส (แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน – Aaron Taylor-Johnson) ที่ออกปราบเหล่าร้ายด้วยตนเอง ได้สร้างแรงบันดาลให้เกิดเป็นกลุ่มนักปราบอธรรมสวมหน้ากากทำมือ ซึ่งนำทีมโดยสุดแสบอย่างผู้พันสตาร์ส แอนด์ สไตรป์ส (จิม แคร์รี่ย์ – Jim Carrey) คิกแอส ฮีโร่ของเราได้เข้าร่วมกลุ่มลาดตระเวนกับทีมนักปราบอธรรมนี้ และเมื่อเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มือสมัครเล่นเหล่านี้ถูก เร้ดมิสต์ (คริสโตเฟอร์ มินท์ซ-แพลส – Christopher Mintz-Plasse) ที่กลายมาเป็นมหาวายร้าย มาเธอร์ฟั%&*^เกอร์ ตามล่า มีเพียงฮิทเกิร์ล (โคลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์ – Chloë Grace Moretz) พร้อมดาบคู่ใจเท่านั้นที่จะปกป้องการกวาดล้างครั้งนี้ได้
ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นมือสังหารรุ่นเยาว์ ฮิทเกิร์ล กับฮีโร่หนุ่มสวมหน้ากาก คิกแอส พวกเขาพยายามใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่ชื่อ มินดี้กับเดฟ ขณะที่ใกล้จะเรียนจบ แถมยังไม่แน่ใจเสียด้วยว่าจะทำยังไงดีกับสถานะซูเปอร์ฮีโร่ของตน เดฟตัดสินใจตั้งทีมซูเปอร์ฮีโร่ทีมแรกของโลกร่วมกับมินดี้ แต่โชคร้ายที่มินดี้ดันโดนจับได้ขณะสวมหน้ากาก ฮิทเกิร์ล ออกทำงาน เธอจึงถูกบีบให้ต้องเกษียณงานปราบอธรรม และทำให้เธอต้องออกไปเผชิญโลกที่แสนสยองของเหล่าสาววัยรุ่นไฮสกูลสุดโหดเพียงลำพัง
เมื่อไม่มีพรรคพวกให้ปรึกษา เดฟจึงหันไปผนึกกำลังกับทีมจัสติซ ฟอร์เอฟเวอร์ ที่บริหารงานโดยอดีตมาเฟียที่ชื่อผู้พันสตาร์ส แอนด์ สไตรป์ส
ขณะที่พวกเขาเริ่มทำให้ชีวิตบนท้องถนนเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลับมีมหาวายร้าย มาเธอร์ฟั%&*^เกอร์ ทำการรวบรวมทีมชั่วช้า และยังวางแผนการที่จะทำให้คิกแอสและฮิทเกิร์ล ต้องชดใช้ในสิ่งที่เคยกระทำต่อพ่อของเขา แต่แผนการของเขายังมีปัญหาหนึ่งอย่าง เพราะถ้าใครขืนไปแหย่สมาชิกคนใดคนหนึ่งของทีมจัสติซ ฟอร์เอฟเวอร์ เท่ากับต้องเจอกับสมาชิกทุกคนในทีมซูเปอร์ฮีโร่ทีมนี้
จากบทภาพยนตร์จากฝีมือของผู้กำกับ เจฟฟ์ แว็ดโลว์ (‘Cry Wolf’, ‘Never Back Down’) และสร้างจากหนังสือการ์ตูนที่เป็นผลงานการสรรค์สร้างของ มาร์ก มิลลาร์ (‘Wanted’, ‘Kick-Ass’) และจอห์น เอส โรมิตา จูเนียร์ (‘Kick-Ass’), ภาพยนตร์แอ็กชั่นตลกเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย แมทธิว วอห์น (‘X-Men: First Class’, ‘Kick-Ass’), อดัม โบห์ลิ่ง (‘Kick-Ass’, ‘Layer Cake’), ทาร์ควิน แพ็ค (‘X-Men: First Class’, ‘Kick-Ass’) และเดวิด รี้ด (‘Kick-Ass’, ‘Layer Cake’)
ทีมงานหลังกล้องที่ล้วนแต่มีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ เหล่าทีมงานหลังกล้องของ ‘Kick-Ass’ นำทีมโดยผู้กำกับภาพ ทิม มอริซ โจนส์ (‘The Woman in Black’, ‘Kick-Ass’), ผู้ลำดับภาพ เอ๊ดดี้ แฮมิลตัน (‘X-Men: First Class’, ‘Kick-Ass’), โปรดักชั่นดีไซเนอร์ รัสเซลล์ เดอ โรซาริโอ (‘Kick-Ass’, ‘Mean Machine’), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แซมมี่ เชลดอน ดิฟเฟอร์ (‘X-Men: First Class’, ‘Kick-Ass’), ผู้แต่งดนตรีประกอบ เฮนรี่ แจ็คแมน (‘Wreck-It Ralph’, ‘Kick-Ass’) และแมทธิว มาร์จีสัน (‘X-Men: First Class’, ‘Puss in Boots’), ผู้ออกแบบทรงผมและแต่งหน้า เฟ แฮมมอนด์ (ภาพยนตร์ใหม่เรื่อง ‘Rush’, ‘Life of Pi’) และผู้ประสานงานสตั๊นต์ เจมส์ โอดี (‘Snow White and the Huntsman’, ‘X-Men: First Class’)
ทีมผู้อำนวยการสร้างบริหารของภาพยนตร์แอ็กชั่นตลกเรื่องนี้ คือ มิลลาร์ โรมิตา จูเนียร์, สตีเฟ่น มาร์กส์, คลอเดีย วอห์น, ปิแอร์ ลาแกรนจ์ และเทรเวอร์ ดุ๊ก มอเร็ตซ์
‘Kick-Ass 2’ ถ่ายทำกันที่ไพน์วู้ด สตูดิโอส์ และตามโลเกชั่นในลอนดอนและโตรอนโต้