มีหนังบางเรื่องที่สร้างกันมาจน 10 ภาคแล้ว แต่กระแสความร้อนแรงยังคงไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย แฟรนไชส์หนังเรื่องนั้นคือ ‘Fast and Furious’ ครับ แถมยิ่งสร้าง ก็ยิ่งสรรหาไอเดียความวายป่วงแบบใหม่มากำนัลผู้ชมได้ไม่รู้จักตัน อีกทั้งยังโม้เกินจริงมากขึ้นทุกที จนคนดูพอรู้แล้วว่า ไม่ต้องใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เข้ามาอธิบายใดๆ ระหว่างดู วันนี้ หนังเข้าฉายแล้วครับ ‘Fast X’ ซึ่งชื่อไทยก็ยังเป็น ‘เร็ว…แรงทะลุนรก 10’ นั่นแหละ
จากหนังซิ่งแข่งรถ กลายมาเป็นหนังจารกรรมสุดบ้าคลั่ง จากนั้นก็กลายเป็นหนังจารชนพิทักษ์โลก แต่ก็ไม่หลงลืมที่จะบอกทุกคนว่าฉันเป็นหนังครอบครัวนะยะ หลังจากภาคที่แล้ว Justin Lin กำกับพร้อมร่วมเขียนบท มาภาคนี้ เขาถอยไปทำหน้าที่โปรดิวเซอร์และเขียนบท ปล่อยให้หน้าที่กำกับให้เป็นของ Louis Leterrier คนที่เคยทำ ‘The Transporter’ ไปแทน ซึ่งก็คงต้องเรียกว่า นี่คือหนังภาคที่รวบรวมเอาเหตุการณ์และตัวละครเก่าในภาคก่อนๆ มาโผล่หน้าให้ผู้ชมได้สนุกกันอีกครั้ง
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะทำไตรภาคจบทั้งที ก็ต้องจัดเต็มกันไปเลยสินะ!
เรื่องย่อหนัง ‘Fast X’
นี่สินะ บทสรุปของปลายทาง เรื่องราวของครอบครัวใหญ่ที่ต้องพบเจอวิบากกรรมและผลพวงจากอดีตอย่างไม่หยุดหย่อน ดอม โทเร็ตโต (Vin Diesel จากหนังเรื่อง ‘The Last Witch Hunter’ และ ‘xXx: Return of Xander Cage’) คนที่เคยนำพาครอบครัวฝ่าฟันเอาชนะศัตรูมากหน้า ที่เข้ามาขวางทางครั้งแล้วครั้งเล่าในภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของครอบครัวนี้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งหมดแหละ แต่สิ่งที่เขาไม่ทันคาดคิด อดีตที่มันน่าจะผ่านไปนานแล้ว ทว่ามันก็ยังตามกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีกจนได้
ครั้งนี้ พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่สุดแสนจะอันตราย ดันเต้ (Jason Momoa จากซีรีส์เรื่อง ‘Game of Thrones’ และหนังเรื่อง ‘Aquaman’) คือชายที่มุ่งมั่นจะกลับมาสร้างความทุกข์ทรมานให้กับดอมที่เคยทำให้พ่อของเขาเสียชีวิต เขามุ่งมั่นจะทำลายครอบครัวอันเป็นที่รักของดอม และทุกคนที่ดอมรักด้วยแรงแค้นที่มี
รีวิวหนัง ‘เร็ว…แรงทะลุนรก 10’
เป็นเรื่องที่แปลกดี ที่หนังแอ็คชันซิ่งรถสร้างมา 9 ภาค แต่มีหนังไตรภาคเพื่อปิดท้าย และนี่คือหนังภาคแรกของไตรภาคนั้น ซึ่งสิ่งที่เราเห็นชัดตั้งแต่เริ่มเรื่องมา ก็คือ การรวบรวมเอาภาพบางส่วนจากหนังฟาสต์ภาคก่อนๆ มาเล่าอีกครั้ง แล้วบอกเราว่า มีบางเหตุการณ์ที่ดอมและผองเพื่อนที่ถูกรวมเรียกว่าเป็นครอบครัวนั้น เคยกระทำมาในอดีต แต่มันได้ส่งผลให้เกิดตัวร้ายตัวใหม่ ที่ย้อนกลับมาแก้แค้นดอมและครอบครัวที่เขารักอีกครั้ง และทำให้เราได้มีโอกาสต้อนรับ ดันเต้ (Jason Momoa) เข้าสู่จักรวาลฟาสต์ในวันนี้
ภาคนี้นอกจากจะนำตัวละครเก่าที่เหล่าแฟน The Fast Saga ล้วนจดจำกลับมามีบทบาทในเรื่องราวใหม่ๆ อีกครั้ง ก็ยังมีการเสริมทัพด้วยตัวละครใหม่อีกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Daniela Melchior (จากหนังเรื่อง ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’) ในบทอิซาเบล, Brie Larson (จากหนังเรื่อง ‘Captain Marvel’) ที่รับบทเป็น เทสส์ ลูกสาวของสุดยอดสายลับโนบอดี้ และ Alan Ritchson (จากซีรีส์เรื่อง ‘Reacher’) ที่รับบทเป็นเจ้าหน้าที่เอมส์ ผู้ช่วยคนใหม่ของโนบอดี้
ถือเป็นการรวบรวมผลิตผลที่สะเปะสะปะให้เข้าที่เข้าทาง กางหยิบเอาสิ่งที่เคยบ่มเพาะไว้ในภาคเก่าก่อน ให้กลายเป็นวัตถุดิบของเรื่องราวใหม่ในภาคนี้ และต้องยอมรับกันจริงๆ จังๆ ว่า เมื่อหนังแฟรนไชส์ฟาสต์มี Justin Lin เข้ามาร่วมเขียนบทหรือกำกับ จะทำให้ภาคนั้นมีกลิ่นอายความเป็นครอบครัวที่อบอวลกว่าตอนที่ไม่มีเขา แม้ในภาคนี้ เขาจะเลือกบอกลาหน้าที่กำกับไป แต่ผลงานของเขาก็ยังอยู่ในพาร์ทของการเขียนบท และในอีกด้านหนึ่ง เขาก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับหนัง น่าเสียดายอยู่บ้าง ถ้าหลังจากนี้ จะไม่ได้เห็นเครดิตของเขาในฐานะผู้เขียนบทหรือผู้กำกับอีก
ถ้าจะพูดถึงตัวร้ายอย่างดันเต้ เราก็จะพบว่า นอกจากขนาดตัวแล้ว บุคลิกของเขาก็มีความโดดเด่นมาก เป็นทั้งสายจิตวิปริตไม่พอ ยังมีจริตจก้านเป็นนิจ จนเรียกได้ว่า แม้ต้องอยู่ในซีนเดียวกับเซนต์โดมินิค (อีกชื่อหนึ่งของดอม) แต่ก็แทบจะกลบรัศมีตัวพ่อของเรื่องได้เลยด้วยซ้ำ แถมในเรื่องนี้ เขาได้ทั้งโชว์ลีลาซิ่งมอเตอร์ไซค์และรถแข่ง เขาจึงคู่ควรแก่การเป็นวายร้ายในภาคต้นของไตรภาคบทสรุปเรื่องนี้
แต่หนังภาคนี้ก็ชวนให้ปวดหัวไม่น้อย เพราะมันเล่าถึงการที่ครอบครัวต้องแยกกันไปคนละทาง และต่างต้องแก้ปัญหาในส่วนของตนเพื่อช่วยกันนำพาครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤติ ทำให้หนังที่มีตัวละครมากล้นเรื่องอยู่แล้ว ต้องเล่าสลับไลน์กันไปมาจนเรื่องมันเดินเอื่อยช้า พาคนดูอย่างเราเริ่มจะหลุดจากเส้นเรื่องหลัก และเริ่มสงสัยว่า ตอนนี้ทั้งหมดกำลังทำอะไรอยู่
และก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่า องก์สุดท้ายของหนังคือความมันส์ขั้นสุด เมื่อทีมเขียนบทและผู้กำกับนำพาซีเควนซ์ของซีนแอ็คชั่นมาระดมยิงใส่คนดูอย่างไม่หยุดให้พักหายใจหายคอ แถมยังคงฝืนกฎฟิสิกส์ทุกข้อ จนไม่ต้องห่วงแล้วว่าหนังจะมีสักส่วนเสี้ยวของความจริง ทั้งยังโม้จัดๆ เอนเตอร์เทนคนดูแบบสุดๆ ระทึกใจกันรัวๆ ก่อนปล่อยให้คนดูอ้าปากค้างเมื่อเครดิตโผล่ขึ้นจอ
ที่สำคัญก็คือ หนังภาคนี้ ยังคงไม่ลืมจุดเริ่มต้นของตนเอง ด้วยการนำพาฉากแข่งรถเข้าแทรกมาใส่ไว้ นอกเหนือจากฉากแอ็คชั่นบู๊แหกกฎฟิสิกส์มากมายหลายแหล่ที่โผล่ขึ้นมาเต็มเรื่อง
และแน่นอน ภาคนี้คือภาคแรกของไตรภาคปิดท้าย เพราะฉะนั้น สิ่งที่มันเล่าจึงยังไม่ไปถึงไม่จุดสิ้นสุด หนังจะจบลงอย่างค้างคา พาให้รู้สึกอยากรู้คำตอบที่จะได้ถูกถ่ายทอดบอกเราในภาคถัดๆ ไป ก่อนจะออกจากโรงหนัง อย่าลืมนั่งดูฉากแถมที่จะโผล่มากลางเครดิตด้วยนะครับ
รวมหนังตระกูลฟาสต์ Fast & the Furious
- รีวิวหนัง ‘Fast & Furious 4’
- รีวิวหนัง ‘Fast Five’
- รีวิวหนัง ‘Fast & Furious 6’
- รีวิวหนัง ‘Fast And Furious 7’
- รีวิวหนัง ‘Fast & Furious Hobbs & Shaw’
- รีวิวหนัง ‘Fast And Furious 8’
- รีวิวหนัง ‘Fast & Furious 9’
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Fast X / Fast & Furious X / เร็ว…แรงทะลุนรก 10 |
กำกับ | Louis Leterrier/หลุยส์ เลเทอร์เรียร์ |
เขียนบท | Dan Mazeau, Justin Lin, Gary Scott Thompson |
แสดงนำ | Vin Diesel, Jordana Brewster, Tyrese Gibson, Michelle Rodriguez, Ludacris, Jason Momoa, John Cena, Jason Statham, Rita Moreno, Helen Mirren, Brie Larson, Charlize Theron, Alan Ritchson, Leo Abelo Perry, Nathalie Emmanuel, Daniela Melchior |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, อาชญากรรม, ลึกลับ, ระทึกขวัญ |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 141 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 17 พฤษภาคม 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Universal Pictures, One Race Films, Original Film |
เร็ว...แรงทะลุนรก 10
พล็อตและบท - 6.7
การแสดง - 7.4
การดำเนินเรื่อง - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.6
7.2
Fast & Furious X
จากหนังซิ่งรถแข่งที่ได้กระแสดี ปรับตัวมาเรื่อยๆ จนมาถึงภาคที่สิบ อันเป็นภาคต้นของไตรภาคบทสรุปของแฟรไซซ์ฟาสต์ หนังพาตัวละครใหม่มาหลายคน ขณะที่ก็พาตัวละครเก่ากลับมาเพียบเช่นกัน ดึงเอาภาพที่แฟนๆ จดจำกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง พร้อมกับวายร้ายที่พยายามจะทำให้ครอบครัวนี้แตกแยกเพื่อแก้แค้น หนังจึงต้องเล่าหลายไลน์สลับกันไปมา ล้อเลียนตัวเองไปเรื่อย พร้อมปิดท้ายด้วยซีนแอ็คชันไร้กฎฟิสิกส์แบบรัวๆ ในช่วงท้าย ถือเป็นการเปิดเกมที่เข้าที แล้วปล่อยให้คนดูค้างคาและตั้งตาภาคต่อกันไป